แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) โพรไบโอติกที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แก้ปัญหาลูกป่วยบ่อย

คุณพ่อคุณแม่คงเคยให้ลูกดื่มนมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัส ช่วยให้ขับถ่ายง่ายใช่ไหมคะ แต่รู้ไหมว่าแลคโตบาซิลลัสไม่ได้ช่วยแก้ท้องผูก ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อยเท่านั้น บางสายพันธุ์ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ลูกเติบโตมีพัฒนาการเต็มศักยภาพในแบบที่ลูกเป็นด้วย วันนี้เราจะพามารู้จักกับ แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) ที่โดดเด่นเรื่องเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดการเจ็บป่วย ภูมิแพ้ เป็นหวัดง่าย จะมีอยู่ในอาหารชนิดใดบ้างนั้น มาดูกันเลย 

Lactobacillus acidophilus คืออะไร 

มารู้จักกับ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) กันก่อน แลคโตบาซิลลัสคือจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารของคนเรา รวมถึงพบในอาหารจำพวก โยเกิร์ต นมเปรี้ยว อาหารหมักดอง คุณสมบัติของมันสามารถผลิตแบคทีเรียที่ช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสในผลิตภัณฑ์นม ทำให้ไม่เกิดอาการท้องอืดหลังจากดื่มนม และยังทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การดื่มนมเปรี้ยวจึงดีกับผู้ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยแลคโตสในนมได้นั่นเอง

อันที่จริงร่างกายมนุษย์เรานั้นไม่ได้มีแค่จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส แต่ยังมีจุลินทรีย์อีกหลายสายพันธุ์มากกว่า 100 ล้านล้านตัวอาศัยอยู่ ปกติแล้วพวกมันมักรวมตัวกันอยู่บริเวณกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ โดย 85% ของพวกมันมักจะเป็นจุลินทรีย์ที่ดี หรือที่เราเรียกกันว่า โพรไบโอติก (probiotics) เช่น Bacillus coagulans, Bifidobacterium infantis, Bifidobacterium lactis, Lactobacillus plantarum เป็นต้น หากร่างกายขาดสมดุล มีจุลินทรีย์ที่ไม่ดีอยู่มากเกินไป ก็จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันตามมาได้

หากคุณพ่อคุณแม่คาดหวังอยากให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง คล่องแคล่ว ไม่ป่วยบ่อย ก็ควรให้ลูกมีจุลินทรีย์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากภายในด้วย อย่าง Lactobacillus acidophilus ที่เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย บทบาทสำคัญของจุลินทรีย์ชนิดนี้คือผลิตกรดแลคติค โดยมันจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นกรดแลคติก และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่พึงประสงค์ในลำไส้นั่นเอง และยังเป็นสายพันธ์ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยเรื่องการพัฒนาสมองอีกด้วย

ทำไมต้องให้ลูกกิน Lactobacillus acidophilus เป็นประจำ

1) ช่วยป้องกันและลดอาการท้องร่วงได้

มีการวิเคราะห์ประชากรกลุ่มตัวอย่างเด็ก 300 คน พบว่า Lactobacillus acidophilus ช่วยลดอาการท้องร่วงได้ เหตุผลสำคัญที่ควรให้ลูกได้รับจุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ก็เพราะลูกน้อยอยู่ในวัยช่างเลือก ชอบทานขนมจุบจิบ อาจจะเผลอทานอาหารที่มีเชื้อโรคปะปนจากร้านรถเข็นริมทางจนเกิดอาการท้องร่วงได้ หากลูกท้องร่วงบ่อย หรือไม่ได้รับการรักษาทันที ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ 

2) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

Lactobacillus acidophilus มีคุณสมบัติในการด้านไวรัส จึงช่วยป้องกันเรื่องอาการหวัด ไวรัส และรวมถึงอาการแพ้ต่าง ๆ หรือเจ็บป่วยบ่อย โดยสามารถลดอาการหวัดในเด็กได้ แนะนำว่าให้ทานร่วมกับ probiotics ตัวอื่น จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อาหารที่มีส่วนประกอบของ Lactobacillus acidophilus มีอะไรบ้าง

• โยเกิร์ต ทำมาจากแบคทีเรีย เช่น Lactobacillus bulgaricus โยเกิร์ตบางตัวยังมี Lactobacillus acidophilus อีกด้วย
• อาหารจำพวกผักดอง พบมากในผักดองที่มีรสเปรี้ยว เช่น กิมจิ กะหล่ำปลีดอง แตงกวาดอง เป็นต้น
• มิโซะ เป็นแป้งที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ผลิตขึ้นจากการหมักถั่วเหลือง แม้ว่าจุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมักมิโซะจะเป็นเชื้อราที่เรียกว่า Aspergillus oryzae แต่มิโซะก็ยังมีแบคทีเรียอีกหลายตัว รวมถึงเจ้า acidophilus ด้วย
• คีเฟอร์ (Kefir) หรือ บัวหิมะธิเบต มีองค์ประกอบหลักคือ ยีสต์และกลุ่มแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลคติก เป็นธัญพืชชนิดหนึ่ง โดยสามารถนำมาเติมนมหรือน้ำเพื่อผลิตเครื่องดื่มหมักที่ดีต่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

แต่เนื่องจากอาหารข้างต้นอาจไม่ถูกปากเด็ก ๆ หรือบางอย่างไม่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนเพียงพอ หรือหากลูกทานบางอย่างมากเกินไปก็จะไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย รวมถึงพัฒนาการของลูกเท่าที่ควร คุณพ่อคุณแม่อาจจะใช้วิธีให้ลูกได้ทานอาหารเสริมที่มีโพรไบโอติกเป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมระดับพรีเมียม ที่มี Lactobacillus acidophilus เป็นส่วนประกอบ และมีเทคโนโลยี Lacto Marson ®TM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเคลือบโพรไบโอติกด้วย Prebiotic (อาหารชั้นดีของโพรไบโอติก) เพื่อให้โพรไบโอติกมีชีวิตที่ยืนยาวและช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไม่เสื่อมสลายหรือถูกทำลายจากกรดในทางเดินอาหาร สารเคมี หรือความร้อนต่าง ๆ

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้นควรมีงานวิจัยหรือพัฒนาขึ้นเพื่อเสริมสร้างและแก้ไขปัญหาสําคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกไว้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องของภูมิคุ้มกัน ว่าสามารถช่วยป้องกันเชื้อโรค บรรเทาอาการหวัด หรือโรคติดเชื้อในระบบต่าง ๆ และทางที่ดีไม่ควรได้รับเพียงจุลินทรีย์ Lactobacillus acidophilus หรือสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่ง แต่ควรให้มีหลากหลายสายพันธุ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรมั่นใจด้วยว่า ปริมาณของสารอาหารที่ร่างกายลูกจะได้รับเสริมเข้าไปนั้นต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป ต้องเหมาะกับช่วงวัยของลูก และควรเป้นอาหารเสริมที่คิดค้นมาเพื่อเด็กเอเชียโดยเฉพาะ ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์นั้นควรผลิตโดยโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับโลก ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากสถาบันชั้นนํา เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่คิดค้นขึ้นจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยที่สุดสำหรับลูกรัก