วิตามินดี (Vitamin D) อีกหนึ่งวิตามินที่คนไทยมักจะหลงลืมและไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและมีแดดที่ค่อนข้างแรงจึงทำให้หลายคนคิดกันไปเองว่าแค่นี้ก็คงจะได้รับวิตามินดีที่เพียงพอแล้ว แต่แท้จริงแล้วการรับวิตามินดีไม่ได้มีเพียงแค่การรับจากแสงแดดเท่านั้น มาดูกันว่าประโยชน์ของวิตามินดี โดยเฉพาะวิตามินดี 3 ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน จะมีประโยชน์เหนือกว่าวิตามินดีชนิดอื่นอย่างไร และทำไมเด็ก ๆ ควรได้รับวิตามินดี 3 เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกลูกในวัยเจริญเติบโต
วิตามินดี มีดีกว่าที่คุณคิด
วิตามินดี เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้ววิตามินดีมีอยู่หลายชนิด แต่วิตามินดีที่มีความสำคัญมากที่สุด คือ วิตามิน D2 และวิตามิน D3 โดยหน้าที่หลักของวิตามิน คือ ช่วยดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้เข้าสู่กระแสเลือก เพื่อนำไปเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
จากการศึกษาและวิจัยค้นพบว่า วิตามิน D3 มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับวิตามินในเลือดได้ดีกว่าวิตามิน D2 มากถึง 56-87% รวมทั้งวิตามิน D3 ยังสามารถเก็บสะสมไว้ในเนื้อเยื่อไขมันได้ดีกว่าวิตามิน D2 มากกว่า 3 เท่า จึงทำให้วิตามิน D3 เป็นวิตามินที่ร่างกายของมนุษย์สามารถผลิตขึ้นได้เองจากการที่ผิวหนังได้รับแสงแดดและได้จากแหล่งอาหารต่าง ๆ อีกมากมาย พร้อมด้วยประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพในหลายด้าน
ประโยชน์ของวิตามิน D3
1. เสริมสร้างการทำงานของแคลเซียม
การรับประทานวิตามินดี 3 ควบคู่กับแคลเซียมจะช่วยทำให้ผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุนมีความแข็งแรงของกระดูกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระดูกมีความหนาขึ้น โดยวิตามินดี 3 จะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเสริมสร้างกระดูก โดยทำหน้าที่ดูดซึมแคลเซียมจากกระแสเลือด ก่อนส่งต่อให้กับสารอาหารตัวอื่น ๆ ในระบบต่อไป ดังนั้น อาจเรียกได้ว่าเมื่อไรที่วิตามินดี 3 ทำงานร่วมกับกับแคลเซียม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างมาก และช่วยให้โครงสร้างร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
การรับประทานวิตามินดี 3 อย่างต่อเนื่องจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยวิตามินดี 3 จะเข้ามากระตุ้นเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่คอยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัสต่าง ๆ ในร่างกาย ส่งผลทำให้มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีและมีร่างกายแข็งแรง
3. ช่วยลดความเครียด
คุณสมบัติของวิตามินดี 3 นอกจากช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกแล้ว ภายในวิตามินดี 3 ยังกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเคมีในสมองที่มีชื่อว่า ซีโรโตนิน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความเครียด ช่วยในการนอนหลับที่ง่ายและสบายมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อเกิดการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมนที่ช่วยให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตได้ดี และมีส่วนสูงที่สูงสมวัยอีกด้วย
วิตามิน D3 พบได้ที่ไหนบ้าง?
โดยปกติแล้วร่างกายของมนุษย์สามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้ผ่านทางชั้นใต้ผิวหนังจากการได้รับรังสียูวีบี ดังนั้น การป้องกันการขาดวิตามินดีที่ง่ายที่สุดคือการออกมารับแสงแดดในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 8.00-10.00 น. อย่างน้อยวันละ 30 นาที – 2 ชั่วโมง โดยการสัมผัสแสงแดด 1 ครั้ง ร่างกายจะได้รับวิตามินดี 3 ประมาณ 100 IU ซึ่งการรับวิตามินดีด้วยวิธีนี้ แม้จะดีแต่ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับเด็ก ๆ หรือประเทศไทยที่มีสภาพอากาศที่ร้อนระอุแม้จะเป็นช่วงเช้าตรู่ก็ตาม
ส่วนการรับวิตามิน D3 ผ่านอาหารนั้นก็มีให้เลือกรับประทานได้อย่างหลากหลาย โดยอาหารที่มีวิตามิน D3 สูง ได้แก่ ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน รวมทั้ง ไข่ และนมบางชนิดที่มีส่วนผสมของวิตามิน D3 เพื่อช่วยทำให้ร่างกายสามารถรับวิตามินได้เพิ่มมากขึ้น
วิตามินดี 3 ในอาหารเสริม ควรเลือกอย่างไร?
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาอาหารเสริมช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและเพิ่มส่วนสูงให้ลูกรัก ที่มี วิตามินดี 3 เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญ ต้องบอกว่าแบรนด์อาหารเสริมระดับพรีเมียม ได้มีการผลิตอาหารเสริมสำหรับเด็กที่เป็นทั้งรูปแบบผงสำหรับชงดื่มหรือเจลลี่ที่ช่วยให้รับประทานได้อย่างง่ายดาย หากพ่อและแม่พบว่าลูกของตัวเองมีภาวะขาดวิตามินหรือไม่เคยตรวจระดับวิตามิน D3 ในเลือด ควรรับประทานวิตามิน D3 ประมาณ 500-800 IU ต่อวัน เป็นเวลาต่อเนื่อง 3-6 เดือนขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับเด็กได้คิดค้นอาหารเสริมที่มีวิตามิน D3 โดยมาในรูปแบบของเจลลี่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเด็กกำลังรับประทานขนม เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อยและเด็กหลายคนชื่นชอบ รวมทั้งยังช่วยให้เด็กไม่เกิดภาวะขาดวิตามิน D3 พร้อมช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยทำให้กระดูกมีความแข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารเสริมในรูปแบบใหม่ที่อร่อยและทานง่ายขึ้นกว่าเดิม
แหล่งข้อมูล
-
DHA Probio 9 Plus (14 ซอง)
1,350 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Nutri Plus 41 | 42 (7 ซอง)
550 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Nutri Plus 41 | 42 (14 ซอง)
1,100 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
DHA Probio 9 (14 ซอง)
1,200 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Muti-IMMU 24 Plus (14 ซอง)
1,350 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Muti-IMMU 24 (14 ซอง)
1,200 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Cal-D-KII 6 Plus (14 ซอง)
1,450 บาท เพิ่มลงในตระกร้า
ติดตามและรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรโมชันและความรู้ดี ๆ ก่อนใครได้ที่นี่
ติดตาม Promom