5 วิตามินที่จำเป็นกับร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน ไม่เจ็บป่วยง่าย

5 วิตามินที่จำเป็นให้กับร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน ไม่เจ็บป่วยง่าย

สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากภายใน โดยเฉพาะในวัยเด็กที่ภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ การเลือกวิตามินที่เหมาะสมช่วยเสริมการป้องกันเชื้อโรค ลดโอกาสป่วย และทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น วันนี้เราขอแนะนำ 5 วิตามินที่จำเป็น ที่ช่วยให้ลูกของคุณมีภูมิคุ้มกันดี พร้อมเติบโตอย่างแข็งแรง!

1. วิตามิน C

วิตามิน C เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันของเด็กโดยตรง เพราะช่วยเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นด่านหน้าสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรค อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายผลิต อินเตอร์เฟอรอน (Interferon) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยยับยั้งไวรัส นอกจากนี้ วิตามิน C ยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลายจากการติดเชื้อ ทำให้เด็กฟื้นตัวเร็วขึ้นเมื่อป่วย

• พบได้ใน: ส้ม กีวี่ ฝรั่ง พริกหวาน ผักใบเขียว สตรอว์เบอร์รี มะขามป้อม
• ประโยชน์:
  • กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
  • ส่งเสริมการสร้างอินเตอร์เฟอรอน ต้านเชื้อไวรัส
  • ลดอาการอักเสบและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นจากการป่วย
  • ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

2. วิตามิน D3

วิตามิน D3 ช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว T-cell และ B-cell ให้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังลดอาการอักเสบในร่างกาย ซึ่งช่วยให้เด็กฟื้นตัวเร็วขึ้นเมื่อป่วย โดยเฉพาะจากโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดและไอเรื้อรัง

• พบได้ใน: ปลาแซลมอน ไข่แดง น้ำมันตับปลา เห็ดบางชนิด และแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า
• ประโยชน์:
  • กระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน
  • ลดการอักเสบ ฟื้นตัวเร็วขึ้นเมื่อป่วย
  • ช่วยป้องกันโรคทางเดินหายใจ
  • เสริมสุขภาพกระดูกและฟันให้แข็งแรง

3. ซิงค์ (Zinc)

ซิงค์ (Zinc) เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของ เซลล์เม็ดเลือดขาว (T-cell และ Natural Killer Cells) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำลายเชื้อโรคและไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ ซิงค์ยังช่วยเสริมสร้างเยื่อบุเซลล์ในระบบทางเดินหายใจและลำไส้ ซึ่งเป็นด่านแรกในการป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย

ซิงค์ยังช่วยควบคุมการอักเสบในร่างกาย ทำให้ลดความรุนแรงของอาการหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ และมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

• พบได้ใน: เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เมล็ดฟักทอง ถั่ว ไข่ นม และธัญพืช
• ประโยชน์:
  • กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ป้องกันการติดเชื้อ
  • เสริมสร้างเยื่อบุทางเดินหายใจและลำไส้ให้แข็งแรง ลดโอกาสที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
  • ลดการอักเสบ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ช่วยลดระยะเวลาของอาการหวัดและไข้หวัดใหญ่

4. วิตามิน B6

วิตามิน B6 เป็นตัวช่วยสำคัญในการกระตุ้นการผลิต แอนติบอดี (Antibodies) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคและไวรัส อีกทั้งยังมีบทบาทในการสร้าง ไซโตไคน์ (Cytokines) ที่ช่วยควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ วิตามิน B6 ยังช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวได้อย่างสมดุล และลดระดับฮอร์โมนความเครียดที่อาจส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

• พบได้ใน: เนื้อไก่ กล้วย อะโวคาโด มันฝรั่ง ถั่ว เมล็ดทานตะวัน
• ประโยชน์:
  • กระตุ้นการสร้างแอนติบอดี ป้องกันการติดเชื้อ
  • ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้สมดุล
  • ลดฮอร์โมนความเครียด ช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
  • สนับสนุนการทำงานของสมองและระบบประสาท ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

5. วิตามิน E

วิตามิน E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดการอักเสบ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเสริมความแข็งแรงของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นด่านหน้าของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรค

วิตามิน E ยังช่วยให้ร่างกายผลิต B-cell ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีหน้าที่สร้างแอนติบอดี ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับไวรัสและแบคทีเรียได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเยื่อบุผิวและระบบไหลเวียนโลหิตให้แข็งแรง ลดโอกาสการติดเชื้อในเด็ก

• พบได้ใน: อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน ผักโขม อะโวคาโด น้ำมันมะกอก
• ประโยชน์:
  • เสริมสร้างการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ป้องกันเชื้อโรค
  • กระตุ้นการสร้างแอนติบอดี ป้องกันการติดเชื้อ
  • ลดอาการอักเสบ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • บำรุงเยื่อบุผิวและระบบไหลเวียนโลหิต ลดโอกาสการติดเชื้อในเด็ก

ตาราง 5 วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน (พร้อมปริมาณแนะนำ)

7 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันต้านหวัด

การเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงช่วยลดโอกาสการติดเชื้อหวัดและโรคทางเดินหายใจ ลองทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง:

1. รับประทานวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น วิตามิน C, D3, และ Zinc
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นและลดโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกาย
3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดิน วิ่ง หรือเล่นโยคะ เพื่อเสริมสร้างการไหลเวียนโลหิต
4. พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับวันละ 7-9 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเอง
5. หลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
6. ล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดโอกาสรับเชื้อโรคจากสิ่งรอบตัว
7. เลี่ยงสถานที่แออัด โดยเฉพาะในช่วงที่มีโรคระบาด เช่น ไข้หวัดใหญ่หรือโควิด-19

ทำยังไงให้ลูกหายป่วยไว

หากลูกเริ่มมีอาการป่วย วิธีดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น:

1. ให้ลูกพักผ่อนเยอะๆ การนอนหลับช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและฟื้นตัวเร็วขึ้น
2. ดื่มน้ำอุ่น น้ำช่วยลดเสมหะ บรรเทาอาการเจ็บคอ และช่วยให้ร่างกายขับของเสีย
3. ให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ซุปไก่ร้อนๆ ผลไม้ที่มีวิตามิน C และอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
4. เลี่ยงของหวานและของทอด เพราะอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่
5. ให้ลูกได้รับวิตามินเสริม เช่น วิตามิน C, D3 และซิงค์ เพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
6. พาลูกไปพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น ถ้ามีไข้สูงหรืออาการรุนแรง ควรรีบพาไปตรวจ

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูก

Q: ลูกไม่สบายบ่อย ควรเสริมวิตามินอะไรดี?

A: วิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ได้แก่ วิตามิน C, D3, ซิงค์, วิตามิน B6 และวิตามิน E ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ลดการอักเสบ และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

Q: วิตามิน D3 จำเป็นไหม ถ้าให้ลูกกินอาหารครบ 5 หมู่?

A: จำเป็นค่ะ แม้ว่าอาหารบางชนิดจะมีวิตามิน D3 แต่ร่างกายของเด็กต้องได้รับแสงแดดเพื่อกระตุ้นการสังเคราะห์ และในบางกรณีที่ได้รับไม่เพียงพอ การเสริมวิตามิน D3 จะช่วยป้องกันการขาดวิตามินและเสริมภูมิคุ้มกันได้

Q: เด็กควรได้รับวิตามินจากอาหารหรืออาหารเสริมดีกว่ากัน?

A: ควรเน้นรับจากอาหารเป็นหลัก เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และไข่ แต่ในชีวิตประจำวัน เด็กอาจไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนทุกมื้อ เช่น กินผักน้อย หรือเลือกกินเฉพาะบางอย่าง ทำให้ขาดวิตามินสำคัญที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ดังนั้น การเสริมวิตามินจากอาหารเสริมจึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการเติมเต็มสารอาหารให้ครบถ้วนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ลูกป่วย หรือมีความต้องการพิเศษ เช่น ช่วงเปลี่ยนฤดูหรือเข้าโรงเรียนที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคมากขึ้น

Q: วิตามิน C ช่วยป้องกันหวัดได้จริงไหม?

A: วิตามิน C ช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการหวัดได้ โดยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวและเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

Q: ควรเสริมวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกทุกวันไหม?

A: หากได้รับจากอาหารไม่เพียงพอ สามารถเสริมวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ทุกวันตามปริมาณที่แนะนำตามวัย เพื่อให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น การรับวิตามินอย่างต่อเนื่องช่วยให้ร่างกายสร้างเกราะป้องกันเชื้อโรคได้ดีขึ้น และลดโอกาสป่วยบ่อย โดยเฉพาะในช่วงที่ภูมิคุ้มกันต้องทำงานหนัก เช่น ช่วงเปลี่ยนฤดูหรือเข้าโรงเรียน

Q: มีอาหารอะไรที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติบ้าง?

A: อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน C (ฝรั่ง, ส้ม), วิตามิน D3 (ปลาแซลมอน, ไข่แดง), ซิงค์ (เมล็ดฟักทอง, ถั่ว), วิตามิน B6 (กล้วย, เนื้อไก่) และวิตามิน E (อัลมอนด์, ผักโขม) เป็นตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติได้ดี

แนะนำอย่างยิ่ง Immuno-Biotics โพรไบโอติกส์คุณภาพสูง คัดเลือกมา 5 สายพันธุ์ที่ดีที่สุดเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันของลูกน้อยโดยตรง โดยช่วยปรับสมดุลลำไส้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบภูมิคุ้มกัน เสริมการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ลดการอักเสบ และเพิ่มความสามารถในการป้องกันเชื้อโรค ให้ร่างกายแข็งแรงจากภายใน

เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกด้วย Multi-IMMU 24 และ Multi-IMMU 24

ถ้าอยากให้ลูกแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย ลองด้วย Multi-IMMU 24 และ Multi-IMMU 24+ ที่ช่วยปกป้องร่างกายตั้งแต่ระดับเซลล์ ช่วยลดการอักเสบและป้องกันเชื้อโรคจากฝุ่น PM 2.5 มลภาวะ ไวรัส และแบคทีเรีย

📌 ผ่านการวิจัยและได้รับรางวัลด้านนวัตกรรมจากฝรั่งเศส

ให้ลูกลองวันนี้! ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พ่อแม่สบายใจ ลูกน้อยห่างไกลโรค 💖