เชคบ่อยๆ อยากรู้สึกแบบไหน ในวันที่ลูกโตแล้ว

“ลูกโตแล้ว เสียดายที่สมัยก่อน ไม่ค่อยได้อยู่ดูแลเค้า” … เป็นประโยคที่หมอได้ยินบ่อย ๆ เมื่อได้คุยกับพ่อแม่ที่ลูกเริ่มโต …ช่วงเวลาที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ยุ่งเหยิงมากที่สุด คือช่วงที่ลูกยังเล็ก เพราะเป็นช่วงที่ลูกใช้เราเป็นเครื่องมือทุกอย่างในการเรียนรู้วิธีความเป็น “คน”

ลูกจึงต้องการ “เวลา” และ “ความรัก ความใส่ใจ การพูดคุย” จากเรามากที่สุดในช่วงนี้

ความต้องการของชีวิตและการงาน

ในขณะเดียวกัน ก็เป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ต้องรีบเติบโตในหน้าที่การงาน เพื่อสร้างครอบครัวที่มั่นคง มีเงินทองที่พอใช้ ให้ลูกอยู่สุขสบายครบถ้วน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แถมยังต้องดูแลสุขภาพกายใจตัวเองด้วยชีวิตและการงาน จึงต้องการ “เวลา” และพลังจากเรามาก ๆ เช่นกัน

การสร้างสมดุลระหว่างงานและครอบครัว

หมอคิดว่า ไม่มีสูตรสำเร็จในการสร้างสมดุลระหว่างสองเรื่องนี้ ไม่มีใครบอกได้ว่า เราทำงานมากเกินไปนะ หรือ ทำไมเอาแต่เลี้ยงลูกจนไม่ยอมทำมาหากิน … คำตอบนี้ มีแต่เราคนเดียวเท่านั้นที่จะตอบได้ และแต่ละคนมีสิทธิเลือกตอบได้ต่างกัน

การถามตัวเองว่าอยากรู้สึกแบบไหนในวันที่ลูกโตแล้ว

อย่างเดียวที่หมอชวนคิด คืออยากให้พวกเราถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า “เราอยากรู้สึกแบบไหน ในวันที่ลูกโตแล้ว”มีอะไรบ้างไหม ที่หากเราทำน้อยไป เราจะเสียดายไปตลอด … เวลาใน 24 ชั่วโมงวันนี้ เราจะแบ่งมันแบบไหนดี ให้เราได้ทำสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด ทั้งเรื่องงาน เรื่องตัวเอง และเรื่องลูก

การจัดสรรเวลาที่มีคุณค่ากับลูก

ในวันที่ชีวิตยุ่งสุด ๆ … ถ้าเราใช้เวลากับมือถือลดลง 10 นาที เพื่อให้เวลากับลูกมากขึ้นจะดีมั้ย … ในวันที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาทั้งวัน หาเวลาทำอะไรที่ชอบตอนลูกหลับ ให้รางวัลตัวเองบ้างดีหรือเปล่า … ในวันที่ตารางงานแน่นไปหมด เราจัดตารางวันพักผ่อนสำหรับครอบครัวไว้ทุก ๆ เดือนบ้างหรือยัง

ช่วงเวลาที่ลูกต้องการเรามากที่สุด เมื่อลูกโต

จริงอยู่ที่ความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูกจะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต แม้ในวันที่เราแก่ วันที่ลูกโตไปมีชีวิตของตัวเอง เราก็จะยังขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อแม่ลูกกัน

แต่ช่วงเวลาที่ลูกจะอยู่กับเรา ฟังเรา มองมาที่เราตลอด อยากจะกอดและจับมือเรา อาจมีอยู่แค่ช่วงสั้น ๆ ไม่เกิน 10 ปี ซึ่งเมื่อมันผ่านไปแล้ว มันจะผ่านไปเลย และทิ้งไว้แค่ความทรงจำเท่านั้น

สร้างความทรงจำที่มีค่าให้กับลูก

มันจึงอาจจะชื่นใจกว่า ถ้าในวันที่ลูกโตแล้ว เรามองไปที่เค้า และรู้สึกว่า ในวันนั้นเราทำเต็มที่เพื่อสร้างเด็กคนนี้ให้เติบโต นี่คือลูกที่เรารักและภูมิใจ และนี่คือชีวิตที่เราเลือก ไม่มีอะไรเสียดายที่ไม่ได้ทำ

ไม่มีมาตรฐานวัดพ่อแม่ที่ดีที่สุดในโลก

เพราะโลกนี้ ไม่มีมาตรฐานวัดพ่อแม่ที่ดีที่สุดในโลก หมอจึงขอส่งกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคนที่กำลังแบ่งเวลาชีวิตอย่างสุดความสามารถ เพื่อเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง

ความเหนื่อยในวันนี้คือความเหนื่อยที่คุ้มค่า และหมอเชื่อว่า คุณกำลัง “ทำดีที่สุด” ในแบบของคุณค่ะ