พ่อแม่กำลังดูแลผิดวิธี? 5 ความเข้าใจผิดที่ทำให้ภูมิคุ้มกันลูกอ่อนแอลง!  เสริมด้วยอาหารเสริมเด็ก

หากลูกของคุณ เป็นหวัดบ่อย ติดเชื้อง่าย หายป่วยช้า 🚨 พ่อแม่หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กเล็ก แต่รู้หรือไม่ว่าบางพฤติกรรมที่เราทำโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของลูกอ่อนแอลง!

ภูมิคุ้มกันของเด็กแต่ละคนมีไม่เท่ากัน บางคนแข็งแรงแต่บางคนป่วยง่าย แต่สิ่งสำคัญคือ เราสามารถช่วยเสริมให้ภูมิคุ้มกันของลูกแข็งแรงขึ้นได้! นอกจากการดูแลสุขภาพพื้นฐานแล้ว “อาหารเสริมเด็ก” ก็มีบทบาทสำคัญ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสป่วยซ้ำ

 มาดู 5 พฤติกรรมผิด ๆ ที่อาจทำให้ลูกของคุณป่วยง่ายขึ้น พร้อม วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย!

เด็กป่วยบ่อย? ลองเช็กดูว่าลูกคุณเป็นแบบไหน!

📌 หมายเหตุ: ระดับความเสี่ยงนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น พันธุกรรม โภชนาการ และการดูแลสุขภาพ ควรพิจารณาร่วมกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยรวมของเด็ก หากลูกของคุณมีพฤติกรรมหลายข้อที่เข้าข่ายภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การเสริมวิตามิน C, โปรไบโอติกส์ และเบต้ากลูแคนจาก Multi-IMMU 24 หรือ Multi-IMMU 24+ สามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น และลดโอกาสป่วยซ้ำได้

1. ให้ลูกกินแต่อาหารที่สุก 100% หลีกเลี่ยงอาหารสดทุกชนิด

❌ ความเข้าใจผิด: “อาหารทุกอย่างต้องผ่านความร้อนถึงจะปลอดภัย”
พ่อแม่หลายคนหลีกเลี่ยงอาหารสดทุกชนิด เพราะกลัวเชื้อโรค แต่รู้หรือไม่ว่าการปรุงอาหารด้วยความร้อนสูงจนเกินไป อาจทำให้สารอาหารสำคัญบางชนิดถูกทำลาย? นอกจากเชื้อโรคที่ถูกกำจัดไป วิตามิน แร่ธาตุ และเอนไซม์บางชนิดก็สูญเสียไปด้วย

✅ ความจริง: อาหารบางชนิดที่ไม่ผ่านความร้อนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า

🔹 วิตามิน C (พบในผลไม้สด เช่น ฝรั่ง ส้ม มะม่วง) → ไวต่อความร้อนสูง หากปรุงเกิน 70°C อาจลดคุณค่าทางโภชนาการลง
🔹 โปรไบโอติกส์ (พบในโยเกิร์ต กรีกโยเกิร์ต) → แบคทีเรียดีจะตายเมื่อถูกความร้อนสูง ทำให้คุณสมบัติที่ช่วยสร้างจุลินทรีย์ในลำไส้ลดลง
🔹 โอเมก้า 3 (พบในเมล็ดแฟลกซ์ อะโวคาโด) → ความร้อนสูงอาจทำให้โอเมก้า 3 เสื่อมสภาพสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ
🔹วิตามินในผักสด (เช่น วิตามิน C, วิตามิน B) → ไวต่อความร้อนสูง หากปรุงเกิน 50-70°C อาจลดคุณค่าทางโภชนาการลง ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินไม่เต็มที่

✅ วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง:

✔ ให้ลูกกินผลไม้และผักสดที่ล้างสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงของเชื้อโรค
✔ เพิ่มโปรไบโอติกส์จากโยเกิร์ตและอาหารหมักดอง เช่น กิมจิ นัตโตะ

2. หลีกเลี่ยงเชื้อโรคทุกชนิด ให้ลูกอยู่ในที่สะอาดที่สุดเสมอ

❌ ความเข้าใจผิด: “บ้านต้องสะอาดไร้เชื้อโรค 100% ถึงจะปลอดภัย”
บางครอบครัวทำความสะอาดบ้านอย่างเข้มงวด ฆ่าเชื้อทุกซอกทุกมุม ใช้แอลกอฮอล์เช็ดทุกพื้นผิว แต่รู้หรือไม่ว่าการป้องกันเชื้อโรคมากเกินไป อาจทำให้ภูมิคุ้มกันของลูกอ่อนแอ เพราะร่างกายไม่ได้ฝึกต่อสู้กับเชื้อโรคตามธรรมชาติ

✅ ความจริง: การสัมผัสเชื้อโรคในระดับที่เหมาะสม ช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

🔹 เด็กที่เล่นดิน เล่นทราย หรืออยู่กับสัตว์เลี้ยง มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงกว่าปกติ
🔹 การป้องกันเชื้อโรคมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายของลูกขาดการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ป่วยง่ายขึ้น

✅ วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง:

✔ ให้ลูกได้เล่นกลางแจ้ง หรือสัมผัสธรรมชาติในระดับที่ปลอดภัย
✔ ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่รุนแรงจนเกินไป เช่น สบู่เด็กอ่อนโยน
✔ ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหาร

3. ป่วยแล้วต้องกินยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)

❌ ความเข้าใจผิด: “ลูกป่วย ต้องรีบกินยาฆ่าเชื้อถึงจะหายเร็ว”
พ่อแม่หลายคนเข้าใจผิดว่า ยาปฏิชีวนะสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด แต่ในความเป็นจริง โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนใหญ่เกิดจากไวรัส ซึ่ง ยาปฏิชีวนะไม่มีผลต่อไวรัสเลย

✅ ความจริง: การใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ ทำให้ภูมิคุ้มกันลูกอ่อนแอลง

• ทำลายแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ → แบคทีเรียดีมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หากถูกทำลาย ร่างกายจะอ่อนแอลง
• ทำให้เชื้อดื้อยา → ใช้บ่อยเกินไป อาจทำให้เชื้อโรคพัฒนาตัวเองให้ดื้อต่อยา ทำให้การรักษาครั้งต่อไปยากขึ้น
• เพิ่มโอกาสป่วยซ้ำ → ระบบภูมิคุ้มกันที่เสียสมดุลจะทำให้ร่างกายอ่อนแอต่อการติดเชื้อใหม่

📌 ตัวอย่างโรคที่มักเกิดจากไวรัส และไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ:

• ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
• มือเท้าปาก
• โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจาก RSV

✅ วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง:
✔ หากลูกเป็นหวัด ควรให้พักผ่อน ดื่มน้ำอุ่น
✔ ใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะเมื่อแพทย์สั่งเท่านั้น
✔ เสริมโปรไบโอติกส์จากอาหารเสริมเด็ก เช่น Multi-IMMU 24 หรือ Multi-IMMU 24+ เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบลำไส้ และสร้างภูมิคุ้มกันใหม่

4. นอนดึกแต่ชดเชยด้วยการนอนตื่นสาย

❌ ความเข้าใจผิด: “ถ้านอนดึก แต่ได้นอนครบชั่วโมง ก็ไม่น่ามีปัญหา”
เด็กหลายคนเข้านอนดึก เพราะติดจอ เล่นเกม หรือทำการบ้าน พ่อแม่บางคนคิดว่า ถ้าลูกได้นอนครบชั่วโมง เช่นให้นอนกลางวันแทน หรือตื่นสายแทนก็สามารถชดเชยได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด!

✅ ความจริง: การนอนดึกส่งผลเสียต่อสุขภาพ แม้จะนอนครบชั่วโมง

• ฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายและเสริมภูมิคุ้มกัน จะหลั่งออกมาในช่วง 22.00 – 02.00 น. เท่านั้น → หากลูกเข้านอนหลังจากนี้ ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง
• ส่งผลกระทบต่อสมาธิและการเรียนรู้ → เด็กที่นอนดึก มีแนวโน้มสมาธิสั้นและประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลง
• ทำให้เสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกิน → การอดนอนกระตุ้นฮอร์โมนหิว ทำให้เด็กอยากกินของหวานหรือของมันมากขึ้น

✅ วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง:
✔ ควรให้ลูกเข้านอนก่อน 21.00 น. เพื่อให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมอย่างเต็มที่
✔ ลดแสงสีฟ้าจากหน้าจอ 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน

5. ออกกำลังกายหนัก = สุขภาพแข็งแรงเสมอ

❌ ความเข้าใจผิด: “ลูกต้องออกกำลังกายหนัก ๆ ถึงจะแข็งแรง”
พ่อแม่บางคน กระตุ้นให้ลูกออกกำลังกายหนักมากเกินไป โดยคิดว่าจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่การออกกำลังกายเกินขีดจำกัดของเด็ก อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี

✅ ความจริง: ออกกำลังกายหนักเกินไป อาจทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงชั่วคราว

• ทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียด → การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไปจะเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งกดภูมิคุ้มกัน
• การออกกำลังกายที่หนักเกินไปเป็นเวลานาน  → อาจนำไปสู่ภาวะการฝึกซ้อมมากเกินไป (Overtraining Syndrome) ซึ่งสามารถกดภูมิคุ้มกันและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
• เพิ่มโอกาสบาดเจ็บ และอักเสบของกล้ามเนื้อ

✅ วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง:
✔ ให้ลูกออกกำลังกายพอดี ไม่หักโหมเกินไป
✔ สังเกตร่างกายลูก หากเริ่มเหนื่อยง่าย ควรให้พัก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาหารเสริมภูมิคุ้มกันของเด็ก

❓ ลูกป่วยบ่อยกว่าปกติหรือเปล่า?
✅ เด็กแต่ละคนมีภูมิคุ้มกันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม การเลี้ยงดู และสภาพแวดล้อม ถ้าลูกป่วยบ่อยเกิน 8-10 ครั้งต่อปี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง

❓ อาหารเสริมเด็กช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้จริงหรือไม่?
✅ อาหารเสริมสำหรับเด็กที่มีส่วนผสมอย่าง โพรไบโอติกส์, HMOs, Elderberry, และ Beta-glucan มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น และช่วยลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

❓ อาหารเสริมสามารถทดแทนมื้ออาหารหลักได้หรือไม่?
✅ ไม่ได้ อาหารเสริมสำหรับเด็กควรใช้เป็นตัวช่วยเสริมสารอาหาร ไม่สามารถใช้แทนอาหารหลักได้ ควรให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนจากอาหารปกติควบคู่กันไป

❓ ควรให้ลูกกินอาหารเสริมสำหรับเด็กเฉพาะช่วงที่ป่วยได้ไหม?
✅ การให้ลูกกินอาหารเสริมเด็กเฉพาะช่วงที่ป่วยอาจช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่ทางที่ดีควรกินทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอ เด็กที่ได้รับสารอาหารเสริมอย่างสม่ำเสมอจะมีแนวโน้มป่วยน้อยลงและฟื้นตัวได้ไวขึ้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับวัย และให้ในปริมาณที่พอเหมาะ

หากลูกของคุณมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาหารเสริมเด็ก อาจเป็นตัวช่วยสำคัญ!

การดูแลสุขภาพพื้นฐานและโภชนาการที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งอาหารที่รับประทานอาจไม่เพียงพอ การเสริมด้วยอาหารเสริมที่มีสารอาหารครบถ้วน จะช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาด และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

🔹 Multi-IMMU 24 และ Multi-IMMU 24+ อาหารเสริมเด็กที่อัดแน่นด้วยสารอาหารสำคัญ เช่น โปรไบโอติกส์ 5 สายพันธุ์พิเศษ, วิตามิน C, วิตามิน D3 ,เบต้ากลูแคน และเอลเดอร์เบอร์รี่ ที่ช่วย ปกป้องร่างกายจากไวรัส เสริมภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ และลดโอกาสป่วยซ้ำ

💙 ดูแลสุขภาพของลูกให้แข็งแรงทุกวัน! เลือก Multi-IMMU 24 และ Multi-IMMU 24+ เป็นตัวช่วย เพื่อให้ลูกของคุณเติบโตแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

✅ คัดสรรโปรไบโอติกส์ 5 สายพันธุ์พิเศษ ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะ
✅ เสริมวิตามิน C และ D3, เบต้ากลูแคน และเอลเดอร์เบอร์รี่ เสริมการทำงานของระบบเม็ดเลือดขาว ป้องกันไวรัส ลดการอักเสบอย่างได้ผล เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกแข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อ และลดโอกาสป่วยซ้ำ

💙 เสริมภูมิคุ้มกันทุกวัน ให้ลูกแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย!
ให้ Multi-IMMU 24 และ Multi-IMMU 24+ เป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กที่คุณไว้วางใจ เพื่อสุขภาพของลูกในทุกวัน