พ่อและแม่รู้หรือไม่ว่า ถ้าอยากเสริมสร้างให้สุขภาพร่างกายของลูกน้อยแข็งแรงต้องกินอะไรบ้าง อาหารเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับลูกรัก ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ภาพในฝันของพ่อและแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การดูแลให้ลูกรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ โดยเน้นไปที่อาหารที่สามารถช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูก โดยอาหารที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยจะมีความแตกต่างกัน
ระบบภูมิคุ้มกัน คืออะไร
ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) คือเกราะป้องกันที่จะช่วยปกป้องให้ร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายได้ เช่น ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย สารพิษจากจุลินทรีย์ หรือจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เช่น เซลล์มะเร็ง และเนื้องอก เป็นต้น โดยระบบภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันกับหลายระบบภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะ สารเคมี เซลล์ หรือโปรตีน หากพบว่าภูมิคุ้มกันอ่อนแอที่เกิดขึ้นจากการมีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือระบบการทำงานบางส่วนที่มีความผิดปกติ ก็จะทำให้ร่างกายของลูกรักเจ็บป่วยได้ง่าย และอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดของโรคร้ายได้ในอนาคต
ระบบภูมิคุ้มกันของลูกรัก แบ่งออกได้เป็น 2 ระบบหลัก ดังนี้
- ภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด (Innate Immune System) มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมกับภูมิคุ้มกันประเภทนี้ ซึ่งถูกถ่ายทอดมาจากพันธุกรรมที่ไม่เจาะจงกับเชื้อโรคชนิดอื่น ๆ เช่น ผิวหนัง เยื่อบุ เยื่อเมือกต่าง ๆ ช่วยขัดขวางไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย หรือกรดในกระเพาะอาหาร เหงื่อ น้ำตา จะช่วยทำลายเชื้อโรคก่อนเข้าสู่ร่างกาย รวมไปถึงเซลล์เพชฌฆาต หรือ Natural Killer Cells; NK Cells ที่พร้อมต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง เนื้องอก หรือการติดเชื้อไวรัสทันทีเมื่อเกิดการติดเชื้อ
- ภูมิคุ้มกันที่ได้มาภายหลัง (Adaptive Immune System) เป็นระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะที่ร่างกายสร้างขึ้นมาหลังจากได้รับเชื้อแล้ว โดยมีพื้นผิวของโมเลกุลโปรตีนที่เรียกว่า แอนติเจน (Antigen) สามารถกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มได้เป็นอย่างดี โดยเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด B lymphocyte (B-cells) จะตอบสนองด้วยการสร้างโปรตีนชนิดพิเศษที่เจาะจงกับแอนติเจนมีชื่อว่า แอนติบอดี้ (Antibody) เพื่อช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด T lymphocyte (T-cells) ทำลายต่อไป
การเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก สำหรับทารกแรกเกิดถึง 1 ปี
การเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการ รวมถึงการเจริญเติบโตได้อย่างสมวัย เพราะหากไม่ได้รับอาหารที่เหมาะสมจะทำให้ลูกมีปัญหาหลายด้าน เช่น น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ การขาดธาตุเหล็ก หรือส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ กล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก สังคม และอารมณ์ การให้ความสำคัญเรื่องอาหารของเด็กในช่วงวัยนี้จึงสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเด็กทารกแรกเกิด – 1 ปี ควรได้รับ อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ดังนี้
- อาหารสำหรับเด็ก 0-6 เดือน
โดยทารกตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน ควรให้กินนมแม่เป็นอาหารหลัก เพราะน้ำนมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด รวมทั้งสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันสำหรับเด็กแรกเกิดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีผลสำรวจจากการวิจัยทั่วโลกพบว่า เด็กทารกที่กินนมแม่จะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ประมาณ 7 จุดด้วยกัน เนื่องจากในน้ำนมแม่จะช่วยกระตุ้นสมองของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังช่วยลดภาวะการติดเชื้อของปอดอักเสบ ลำไส้อักเสบ หูอักเสบ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้อีกด้วย
- อาหารสำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป
สำหรับในช่วงวัยนี้จะเป็นการเริ่มให้อาหารเสริมอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการรับประทานนมแม่ โดยมีอาหารเสริมที่สามารถรับประทานได้และปริมาณที่เหมาะสม ได้แก่ ข้าวบดประมาณ 3 ช้อนโต๊ะไข่แดงครึ่งฟอง ปลาบด 2 ช้อนโต๊ะ ตับบด 1 ช้อนโต๊ะ ผักสุกบดครึ่งช้อนโต๊ะ และผลไม้สุก 1-2 ชิ้น
- อาหารสำหรับเด็ก 8 เดือนขึ้นไป
ช่วงวัยนี้ของลูกจะเป็นการเพิ่มปริมาณมื้ออาหารเป็น 2 มื้อ รวมถึงเพิ่มปริมาณอาหารของแต่ละมื้อให้มากขึ้น โดยมีอาหารและปริมาณที่เหมาะสม ได้แก่ ข้าวบดประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ ไข่ทั้งฟอง เนื้อสัตว์ 2 ช้อนโต๊ะ ผักสุกบด 1 – 2 ช้อนโต๊ะ และผลไม้สุก 2 – 3 ชิ้น
- อาหารสำหรับเด็ก 10 เดือน – 1 ปี
เมื่อลูกน้อยของเราเริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ 10 เดือน – 1 ปี ควรให้เริ่มรับประทานอาหาร 3 มื้อ ควบคู่ไปกับการรับประทานนมแม่ โดยนมแม่จะกลายมาเป็นอาหารเสริมแทน ซึ่งสามารถให้เด็ก ๆ ทานนมแม่ได้ในช่วงระหว่างมื้ออาหาร เช่น ก่อนมื้อเช้า หลังมื้อเที่ยง และก่อนนอน เป็นต้น โดยอาหารและปริมาณของอาหารที่เด็กช่วงวัยนี้ควรได้รับ ได้แก่ ข้าวสุกนิ่มประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ ไข่ทั้งฟอง เนื้อสัตว์ 3 ช้อนโต๊ะ ผักสุกหั่น 3 ช้อนโต๊ะ ผลไม้สุก 4-5 ชิ้น
- อาหารสำหรับเด็ก 1 ปีขึ้นไป
สำหรับเด็กในช่วงอายุครบ 1 ปี แล้วจะสามารถรับประทานอาหารได้เหมือนผู้ใหญ่ทั่วไป แต่สิ่งสำคัญยังไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสจัด ของหมักของดอง หรืออาหารที่ทำให้ย่อยได้ยาก ควรเน้นการรับประทานอาหารที่ไม่แข็งมาก เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยว หรือราดหน้า เป็นต้น
5 อาหารเสริมภูมิคุ้มกันลูก
- เนื้อปลา
อาหารเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับลูก อย่างแรกที่อยากแนะนำ คือ เนื้อปลา เพราะว่าเนื้อปลาประกอบไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กเป็นอย่างมาก มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ปกป้อง และซ่อมแซมร่างกายที่เกิดความเสียหาย รวมทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูกเพื่อต่อสู้กับเหล่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า เป็นต้น
- บรอกโคลี
สำหรับบรอกโคลีเป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์สำคัญอย่าง วิตามินซี ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ และยังช่วยลดการอักเสบภายในร่างกายได้อีกด้วย
- ถั่ว
อีกหนึ่งแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นอย่างมาก อุดมไปด้วย วิตามินอี ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นในการสร้างเซลล์เพื่อทำลายเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย สิ่งสำคัญ คือ คุณพ่อและคุณแม่ควรบดถั่วให้เป็นผงแล้วใส่ลงไปผสมกับอาหาร เช่น มันฝรั่งบด หรือซุป เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานของลูกน้อย แต่อย่างไรก็ดี อาจต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานถั่ว ในกรณีที่ครอบครัวมีประวัติแพ้อาหาร ซื่ออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวของลูกรักได้
- ไข่
เมนูใกล้ตัวที่หลายคนอาจมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่าไข่เป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมที่อุดมไปด้วยสังกะสี และซีลีเนียม ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี โดยเด็ก ๆ อายุ 7 เดือนขึ้นไป สามารถรับประทานไข่ได้วันละ 1 ฟอง
- ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลูกได้โดยตรง การรับประทานวิตามินซีที่เพียงพอก็จะทำให้ลูกได้มีภูมิต้านทานที่ดีขึ้น โดยผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ฝรั่ง ส้ม มะละกอ รวมทั้งผลไม้ตระกูลเบอร์รี อย่าง เอลเดอร์เบอร์รี ซึ่งมีคุณสมบัติในการเสริมเกราะภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถรับประทานทุกวันเพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากอาหารเสริมภูมิคุ้มกันจากธรรมชาติหลากหลายชนิดที่ได้แนะนำไป คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถเลือกเสริมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก ที่มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของลูกได้อีกด้วย เพราะการรับประทานโภชนาการที่เหมาะสมตามวัย ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็กที่ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ คิดค้นและพัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก ก็ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าลูกรักจะมีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย ส่งผลให้ลูกรักเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพมากที่สุด
แหล่งข้อมูล
-
Muti-IMMU 24 Plus (14 ซอง)
1,350 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
DHA Probio 9 (14 ซอง)
1,200 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Nutri Plus 41 | 42 (7 ซอง)
550 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Cal-D-KII 6 Plus (14 ซอง)
1,450 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
DHA Probio 9 Plus (14 ซอง)
1,350 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Muti-IMMU 24 (14 ซอง)
1,200 บาท เพิ่มลงในตระกร้า -
Nutri Plus 41 | 42 (14 ซอง)
1,100 บาท เพิ่มลงในตระกร้า
ติดตามและรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรโมชันและความรู้ดี ๆ ก่อนใครได้ที่นี่
ติดตาม Promom