พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) มีประโยชน์อย่างไร ไม่อยากให้ลูกป่วยง่าย ต้องเสริมพรีไบโอติกส์!
เรื่องราวดีๆจาก Promom สำหรับคุณแม่และลูกน้อย
พรีไบโอติกส์ คืออะไร ทำมาจากอะไร เด็กกินได้ไหม พรีไบโอติกส์จากธรรมชาติมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้
พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร?
พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คือ อาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ เป็นใยอาหารชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายของคนเราไม่สามารถย่อยหรือถูกดูดซึมได้ทั้งในกระเพาะอาหารและลำไส้ พรีไบโอติกส์ในรูปแบบเดิมนี้จะถูกส่งผ่านมายังลำไส้ใหญ่ ก่อนจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียชนิดดี และกลายเป็นอาหารอันโอชะของเหล่าจุลินทรีย์สุขภาพ หรือโพรไบโอติกส์ (Probiotics)
พรีไบโอติกส์ & โพรไบโอติกส์ ต่างกันอย่างไร
- จุลินทรีย์ชนิดดี หรือ จุลินทรีย์สุขภาพ = โพรไบโอติกส์
- อาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ = พรีไบโอติกส์
ในร่างกายของคนเรามีจุลินทรีย์อาศัยอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ เป็นทั้งจุลินทรีย์ชนิดที่ก่อโรค และจุลินทรีย์ชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เราเรียกจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้ว่า โพรไบโอติกส์ หรือจุลินทรีย์สุขภาพ ซึ่งการที่จุลินทรีย์เหล่านี้จะเติบโตได้ดี จำเป็นต้องมีอาหารที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต เราเรียกอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพนี้ว่า พรีไบโอติกส์ ซึ่งการได้รับพรีไบโอติกส์อย่างพอเหมาะจะช่วยให้โพรไบโอติกส์เจริญเติบโตดี และมีปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย และระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของลูกรัก
พรีไบโอติกส์ ประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ และระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก ๆ
ประโยชน์ของ พรีไบโอติกส์ คือ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพ หรือโพรไบโอติกส์ ทั้งในชนิด บิฟิโดแบคทีเรียม (bifidobacteriam) และ แลคโตบาซิลลัส (lactobacillus) ช่วยปรับสภาวะแวดล้อมในลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าโพรไบโอติกส์จำนวนมากถึง 70% ของร่างกาย ให้มีความสมดุล ทำให้โพรไบโอติกส์เติบโตได้ดี มีปริมาณที่เหมาะสม ส่งผลให้ทางเดินอาหาร ระบบขับถ่าย รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ทำงานได้เป็นปกติ
พรีไบโอติกส์ ทำมาจากอะไร พรีไบโอติกส์จากธรรมชาติมีอะไรบ้าง
พรีไบโอติกส์ เป็นใยอาหารชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในธรรมชาติ จัดเป็น Functional food หรืออาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ นอกเหนือจากประโยชน์ทางโภชนาการที่มีอยู่แล้วในตนเอง โดยพรีไบโอติกส์มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน เรียกได้ว่ามีความจำเป็นต่อร่างกายไม่น้อยไปกว่าสารอาหารชนิดอื่น
คุณแม่สามารถพบ อาหารที่มีพรีไบโอติกส์สูง ได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง และธัญพืชต่าง ๆ เช่น บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม ข้าวโพด เห็ด ผักกาด กะหล่ำปลี กระเทียม หัวหอมใหญ่ ข้าวโอ๊ต ถั่วต่าง ๆ แฟลกซ์ซีด แอปเปิ้ล กล้วย เป็นต้น โดยเด็ก ๆ ควรได้รับอาหารที่มีพรีไบโอติกส์สูง ควบคู่กับโภชนาการตามวัยเป็นประจำทุกวัน
ทำความรู้จัก HMOs พรีไบโอติกสำหรับเด็ก ที่มีอยู่ในนมแม่
นอกจากพรีไบโอติกส์ที่มีอยู่ในอาหารทั่วไปแล้ว ยังมีพรีไบโอติกชนิดที่พบในนมแม่ซึ่งถือว่ามีคุณภาพสูงมาก และเหมาะสำหรับเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก เราเรียกพรีไบโอติกในนมแม่นี้ว่า HMOs (Human Milk Oligosaccharide) เป็นโอลิโกแซคคาไลด์ที่อยู่ในนมแม่ มีปริมาณมากเป็นอันดับ 3 รองจากแลคโตสและไขมัน เป็นพรีไบโอติกที่มีคุณลักษณะเฉพาะมากกว่า 200 โครงสร้าง โดยแต่ละโครงสร้างเองก็มีความโดดเด่นที่เป็นประโยชน์ต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ที่สำคัญคือ HMOs ยังเป็นอาหารที่จุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติกส์) ชื่นชอบมาก จึงช่วยให้จุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้เจริญเติบโตได้ดี และทำหน้าที่ต่อต้านจุลินทรีย์ก่อโรคที่หลุดรอดเข้ามาก่อกวนระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีศักยภาพ
ไม่เพียงเท่านี้ HMOs ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมาก ได้แก่
- ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานเป็นปกติ และลดการอักเสบในร่างกาย
- ป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ก่อโรคเจริญเติบโต และลดความเสี่ยงของโรคติดเชื้อต่าง ๆ
- ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดี
- ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเซลล์สมอง
พรีไบโอติกส์ เด็กกินได้ไหม พรีไบโอติกส์ สำหรับเด็กเป็นอย่างไร
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีพรีไบโอติกส์ วางจำหน่ายให้เป็นทางเลือกของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเสริมพรีไบโอติกส์ให้ลูกรัก เนื่องจากอาจเป็นเรื่องยากที่จะให้เด็ก ๆ ทานอาหารที่มีพรีไบโอติกส์ได้ครบถ้วนในทุก ๆ วัน แต่พรีไบโอติกส์สำหรับเด็ก แตกต่างจากพรีไบโอติกส์สำหรับผู้ใหญ่ คุณแม่จึงควรพิจารณาผลิตภัณฑ์พรีไบโอติกส์ที่ผลิตมาเพื่อเด็ก ๆ ช่วงวัยนั้น ๆ โดยเฉพาะ ควรประกอบไปด้วย จุลินทรีย์สุขภาพสำหรับเด็ก หรือโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษแล้วว่าสามารถปกป้องระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก ๆ ได้เต็มประสิทธิภาพ และจำเป็นต้องมีพรีไบโอติกส์ชนิดที่จุลินทรีย์สุขภาพสายพันธุ์เหล่านั้นชื่นชอบ เพื่อส่งเสริมให้จุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีพรีไบโอติกส์สำหรับเด็กนั้นต้องคำนึงถึงลักษณะสำคัญดังนี้
1.เป็นพรีไบโอติกส์ที่เหมาะสำหรับเด็กโดยเฉพาะ
2.เป็นพรีไบโอติกส์ที่จุลินทรีย์สุขภาพในร่างกายของเด็กชื่นชอบ
3.มีปริมาณที่เหมาะสมตามช่วงวัย
4.มารูปแบบที่เด็กรับประทานง่าย และอยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว
พรีไบโอติกส์ กินตอนไหน กินต่อเนื่องได้หรือไม่?
การกินพรีไบโอติกส์ที่เหมาะสม และได้ประโยชน์สูงสุด ควรกินก่อนมื้ออาหาร หรือระหว่างมื้ออาหาร เนื่องจากหลังจากรับประทานอาหารเข้าไปแล้ว ระบบย่อยอาหารจะหลั่งกรดออกมามากมาย ทำให้จุลินทรีย์สุขภาพบางส่วนอาจถูกทำลายได้ ดังนั้น เพื่อให้พรีไบโอติกส์ทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพ จึงควรทานในขณะที่กระเพาะและลำไส้ยังไม่หลั่งกรดออกมามากจะดีที่สุด
โดยเด็ก ๆ สามารถกินพรีไบโอติกส์ได้เป็นประจำทุกวัน ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร และระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ซึ่งพรีไบโอติกส์ที่เหมาะกับเด็ก ๆ ควรมีปริมาณและรูปแบบที่เหมาะสมกับช่วงวัยและพัฒนาการ ทั้งยังควรมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้พรีไบโอติกส์ และโพรไบโอติกทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม เพื่อให้ลูกรักได้รับประโยชน์จากการกินอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของพรีไบโอติกส์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก Promom
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก