ลูกตัวร้อน ลูกเป็นเป็นไข้บ่อยเกิดจากอะไร ลูกไม่สบายบ่อย กินอะไรดี? | Promom ความทุ่มเทของคุณหมอหัวใจแม่
Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

ลูกตัวร้อน ลูกเป็นเป็นไข้บ่อยเกิดจากอะไร ลูกไม่สบายบ่อย กินอะไรดี?

เรื่องราวดีๆจาก Promom สำหรับคุณแม่และลูกน้อย

Promom ความทุ่มเทของคุณหมอหัวใจแม่

เคยสงสัยกันไหม ทำไมลูกถึงเป็นไข้บ่อย เกิดจากอะไร ลูกตัวร้อน มีไข้สูง ต้องดูแลอย่างไร และถ้าไม่อยากให้ ลูกไม่สบายบ่อย ต้องกินอะไร ในบทความนี้รวบรวมทุกคำตอบมาให้คุณแม่แล้วค่ะ


ลูกตัวร้อน จากอาการไข้ ทำยังไงดี 

บ่อยครั้งที่คุณพ่อคุณแม่พบว่าเวลาลูกป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็ก และเด็กทารก มักจะมีไข้สูงร่วมด้วย เมื่อสัมผัสเนื้อตัวดูจะรู้สึกได้ทันทีว่าลูกตัวร้อน บางครั้งจะมีเหงื่อออกจนเสื้อผ้าหรือที่นอนเปียกชุ่ม และยังพบว่าผิวบริเวณแก้มมักเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มขึ้นเนื่องจากพิษไข้ ลักษณะเหล่านี้ส่งผลให้คุณพ่อคุณแม่วิตกกังวลจนอยากรับเอาอาการเจ็บป่วยเหล่านั้นมาไว้ที่ตนเองแทน


โดยปกติแล้ว อุณหภูมิของร่างกายคนเราจะเฉลี่ยประมาณ 37.5 องศาเซลเซียส แม้ว่าในช่วงเวลาต่าง ๆ อุณหภูมิร่างกายอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามปัจจัยอื่น ๆ เช่น การทำกิจกรรม การสวมใส่เสื้อผ้า หรือสภาพอากาศรอบตัว แต่อย่างไรก็ดี อุณภูมิปกติของร่างกายก็ไม่ควรต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส และไม่ควรสูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียส


คุณแม่หลายคนอาจอยากทราบว่า เมื่อลูกตัวร้อน จะรู้ได้อย่างไรว่าอุณหภูมิกี่องศาถึงจะเป็นไข้ กรณีนี้ให้ลองใช้ปรอทวัดไข้มาวัดอุณหภูมิร่างกายของลูกดู หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส จะถือว่า ลูกมีไข้สูง โดยการวัดไข้อาจทำได้หลายวิธีแตกต่างกันไปตามชนิดของอุปกรณ์วัดไข้ที่มีอยู่ประจำบ้าน หากคุณแม่พบว่าลูกมีไข้สูง ควรรีบดูแลและปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยด่วน


วิธีใช้ปรอทวัดไข้ วิธีวัดไข้ทารก ทำอย่างไร

  • วิธีวัดไข้ด้วยปรอทแก้ว ก่อนใช้ควรสะบัดให้แถบบอกอุณหภูมิของปรอทอยู่ต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส โดยการวัดไข้อาจใช้วิธีอมไว้ใต้ลิ้น ซึ่งเหมาะกับเด็กโต หรือผู้ใหญ่ ส่วนเด็กเล็กกว่าสามารถใช้วิธีหนีบรักแร้ให้แน่นประมาณ 3 – 5 นาที และหากเป็นเด็กทารก มักจะวัดไข้ทางทวารหนัก ซึ่งจะสอดปรอทเข้าไปลึกประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร ค้างไว้ประมาณ 1 นาที เป็นต้น
  • วิธีวัดไข้ด้วยปรอทดิจิทัล เป็นปรอทวัดไข้ที่ใช้งานได้ง่ายและได้รับความนิยมมาก เพราะอ่านค่าง่าย ให้ความแม่นยำไม่ต่างจากปรอทแก้ว ส่วนวิธีใช้ก็ง่ายมาก เพียงแค่เปิดเครื่อง นำไปวัดอุณหภูมิตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง ปาก หู รักแร้ หรือทวารหนัก รอจนปรอทแสดงตัวเลขอุณหภูมิ


ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด ทำไงดี

เมื่อพบว่าลูกตัวร้อนจากพิษไข้ หรือมีอุณหภูมิวัดได้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส สิ่งแรกที่คุณแม่ควรทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด อาการชักเพราะไข้สูง หลังจากการรับประทานยาลดไข้สำหรับเด็ก และดื่มน้ำมาก ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรเช็ดตัวให้ลูก ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยนำความร้อนออกจากร่างกายของลูกได้เร็วกว่าการแปะ เจลลดไข้ โดย วิธีเช็ดตัวลดไข้ ทำได้โดยการใช้ผ้าขนหนู 2 – 3 ผืน ชุบน้ำอุณหภูมิประมาณ 27 – 37 องศาเซลเซียส สลับกันไล่เช็ดตัวลูกรักตั้งแต่ใบหน้า พักไว้ที่หน้าผาก ซอกคอ รักแร้ ไล่เช็ดลงมาตามหน้าอก หลัง ลำตัว และพักผ้าไว้ที่ขาหนีบ ในส่วนของแขนและขา ควรใช้ผ้าเช็ดย้อนรูขุมขน หรือเช็ดจากปลายแขนเข้าสู่ลำตัว ทำซ้ำ 3 – 4 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี หลังจากเช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดซ้ำ ๆ ครบ 30 นาทีแล้ว


คุณแม่สามารถเช็ดตัวลูกให้แห้งสนิท และสวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายเหงื่อได้ดี และให้นอนพักผ่อนในห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก ทั้งนี้ การเช็ดตัวลดไข้ สามารถทำได้บ่อย ๆ หรือทุก ๆ 4 ชั่วโมง ก็จะช่วยให้อุณหภูมิร่างกายที่ร้อนจากพิษไข้ลดลงจนเป็นปกติ


ลูกเป็นไข้ ตัวร้อน มือเท้าเย็น อันตรายไหม

การที่ลูกตัวร้อนจากอาการไข้สูง แต่มือและเท้าเย็น เป็นลักษณะที่พบได้ทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่เช็ดตัว และให้ลูกรับประทานยาลดไข้สำหรับเด็กแล้วไข้ยังไม่ลด และพบว่ามีไข้ ตัวร้อน ร่วมกับมีอาการหนาวสั่น อ่อนเพลีย ผิวหนังเป็นจุด ๆ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการอย่างเร่งด่วน


ลูกไข้สูง ชัก ทำไงดี

อาการชักจากไข้สูง หรือมีภาวะ ไข้ชัก พบได้บ่อยในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี และพบบ่อยที่สุดในช่วงอายุประมาณ 1 – 2 ปี โดยการชักจากไข้สูง จะเกิดขึ้นเมื่อมีไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส หากพบว่าลูกชักจากไข้สูง คุณแม่ต้องจัดร่างกายลูกให้อยู่ในท่านอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก ไม่ควรพยายามป้อนยา นำช้อนมางัดปาก หรือเขย่าตัวลูกเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลูกมีอันตรายมากขึ้น โดยทั่วไปการชักจากไข้สูงจะหยุดเองภายใน 3 – 5 นาที ถ้ามีอาการนานกว่านั้น หรือมีภาวะตัวเขียวเนื่องจากขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเป็นอันตรายต่อสมอง ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด


ลูกเป็นไข้กี่วันควรไปหาหมอ

  • หากทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส หรือมีอาการที่น่าเป็นห่วงร่วมด้วย เช่น อาเจียน ท้องเสีย เซื่องซึม ผิวหนังเปลี่ยนสี หรือหายใจติดขัด คุณแม่ควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยอาการอย่างละเอียด และรักษาอย่างเหมาะสม
  • เด็กเล็กอายุ 6 เดือน – 1 ปี หากได้รับประทานยา และเช็ดตัวตามคำแนะนำแล้วไข้ยังสูงเกิน 1 วัน หรือมีอาการแทรกซ้อนที่ไม่น่าไว้วางใจ ควรไปพบแพทย์ทันที
  • เด็กอายุ 1 – 2 ปี หากมีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส และไม่สามารถทำให้ไข้ลดลง แม้จะรับประทานยาและเช็ดตัวลดไข้ไปแล้ว นานกว่า 2 วัน หรือมีอาการแทรกซ้อนที่ไม่น่าไว้วางใจได้ ควรพาไปพบแพทย์ทันที
  • เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป หากมีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส นานเกิน 3 – 4 วัน แม้ว่าจะรับประทานยาลดไข้ตามคำแนะนำของเภสัชกรแล้ว หรือพบว่ามีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ไม่น่าไว้วางใจ  เช่น เหนื่อยหอบ ไอมากขึ้น  ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที


ลูกเป็นไข้บ่อยเกิดจากอะไร

สำหรับเด็กเล็ก การป่วยบ่อยหรือเป็นไข้บ่อย มักเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์เท่ากับเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ส่งผลให้เจ็บป่วยง่ายหากได้สัมผัสกับไวรัส อากาศเปลี่ยนแปลง หรือได้รับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมกับระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของลูก จะค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเมื่อลูกโตขึ้น แต่คุณแม่ก็สามารถเร่งเสริมเกราะภูมิคุ้มกันได้ด้วยการให้ลูกรักรับประทานนมแม่ ที่ประกอบด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด และเปรียบเสมือนวัคซีนที่ดีที่สุดของลูกรัก อย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ร่วมกับการพาลูกไปรับวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์ให้ครบถ้วน นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถดูแลให้ลูกรักรับประทานอาหารเสริมภูมิคุ้มกันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก


แต่หากสังเกตพบว่า ลูกป่วยบ่อย เป็น ๆ หาย ๆ ร่วมกับรับประทานอาหารได้น้อยลง มีอาการเบื่ออาหาร ท้องเสียบ่อย มีไข้สูงลอย หรือร้องไห้งอแงมากผิดปกติ แนะนำให้คุณแม่พาลูกรักไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกของร่างกาย รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันอย่างถี่ถ้วน


ลูกเป็นไข้อ่อน ๆ ไม่หาย เกิดจากอะไร

อย่างที่กล่าวไปว่า การที่เด็ก ๆ เป็นไข้อ่อน ๆ ไม่หายซักที อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือแม้กระทั่งการติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรียผ่านการสัมผัส การหายใจ หรือการรับประทาน ซึ่งคุณแม่เองสามารถดูแลสุขภาพ รวมทั้งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรงและทำงานได้เต็มศักยภาพมากขึ้น ด้วยการให้ลูกรักรับประทานอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ร่วมกับ อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ที่ช่วยส่งเสริมเกราะภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น


ลูกไม่สบายบ่อย กินอะไรดี

การเลือกให้ลูกรักรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น ผัก ผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง ธัญพืชต่าง ๆ รวมทั้งการเสริมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของ 

  • โพรไบโอติกส์ (Probiotics) หรือจุลินทรีย์สุขภาพ ชนิดที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอย่างมีประสิทธิภาพ 
  • พรีไบโอติก (Prebiotic) ชนิดที่พบในนมแม่ คือ HMOs มีคุณสมบัติช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรักอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นอาหารที่โพรไบโอติกส์ชื่นชอบ 
  • เอลเดอร์เบอร์รี (Elderberry) ผลไม้ผลจิ๋วที่มีคุณสมบัติช่วยในการยับยั้งไวรัส และแบคทีเรียต่าง ๆ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดี
  • เบต้า-กลูแคน (Beta-Glucan) สารสกัดจากยีสต์ธรรมชาติ ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว และเสริมเกราะป้องกันร่างกาย
  • แร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดี 3 ซิงค์ เป็นต้น


เมื่อเด็ก ๆ ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้มีสุขภาพดี ลดการเจ็บป่วย และลดอาการภูมิแพ้ที่เกิดจากสภาพแวดล้อม และอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นการเสริมเกราะภูมิคุ้มกันครบทุกกลไกนั่นเอง

เรื่องราวดีๆจาก Promom

เจ้าของบทความ

Promom Content Team

หรือติดตามได้ที่เพจ Promom Thailand

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก Promom

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Nutri Plus 41&42 เพิ่มน้ำนมแม่

สำหรับคุณแม่หลังคลอด จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Multi-IMMU 24+ (เด็กโต) ลดภูมิแพ้

สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Multi-IMMU 24 (เด็กเล็ก) ลดภูมิแพ้

สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

DHA Probio 9+ (เด็กโต) พัฒนาสมอง

สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

DHA Probio 9 (เด็กเล็ก) พัฒนาสมอง

สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Cal-D-KII 6+ เพิ่มความสูง

สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก

แหล่งข้อมูล

... สั่งซื้อได้ตลอด 24 ชม.
ติดต่อโปรมัม
...
...
...

โทรศัพท์: 02 114 8788

อีเมลล์: [email protected]

...
...
Professional Mom (Thailand) Co., Ltd. เลขที่ 117 ซอยศูนย์การค้าสาย 4 ถนนสุขุมวิท ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21000.