5 คำถามยอดฮิตเรื่อง DHA ในน้ำนมแม่ และวิธีบำรุงน้ำนมแม่ให้ DHA สูง
Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

5 คำถามยอดฮิตเรื่อง DHA ในน้ำนมแม่ และวิธีบำรุงน้ำนมแม่ให้ DHA สูง

เรื่องราวดีๆจาก Promom สำหรับคุณแม่และลูกน้อย

Promom ความทุ่มเทของคุณหมอหัวใจแม่

1. DHA คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับลูกน้อย?

DHA (Docosahexaenoic Acid) เป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อพัฒนาการของ สมอง ระบบประสาท และสายตา ของทารก แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำนมแม่แต่ละคนมีปริมาณ DHA ไม่เท่ากัน!

ปริมาณ DHA ในน้ำนมแม่ขึ้นอยู่กับ อาหารที่แม่รับประทาน และวิธีบำรุงน้ำนมแม่ หากแม่ได้รับ DHA อย่างเพียงพอ ลูกจะมีพัฒนาการทางสมองที่ดีขึ้น สมาธิดี และมีสายตาคมชัด

เด็กที่ได้รับ DHA เพียงพอเป็นอย่างไร?

  • สมองพัฒนาเต็มที่ – DHA เป็นองค์ประกอบหลักของเซลล์สมอง โดยคิดเป็นประมาณ 60% ของไขมันโครงสร้างในสมอง  มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท ส่งผลให้เด็กเรียนรู้ไว ความจำดี และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ รวมถึงการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ DHA มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมองและระบบประสาท โดยเฉพาะในช่วงทารกและเด็กเล็ก
  • สายตาคมชัด – DHA เป็นองค์ประกอบสำคัญของจอประสาทตา มีบทบาทช่วยเสริมการทำงานของเซลล์รับแสง ซึ่งช่วยให้ลูกมองเห็นชัดเจนขึ้น และส่งเสริมพัฒนาการด้านการมองเห็น มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการมองเห็น โดยเฉพาะในช่วง 8 ปีแรกของชีวิต
  • อาจมีสมาธิดีขึ้น – มีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า DHA อาจช่วยสนับสนุนการทำงานของสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมาธิและความตั้งใจ ส่งผลให้เด็กสามารถจดจ่อกับการเรียนได้นานขึ้น ลดอาการวอกแวก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้
  • พัฒนาการทางอารมณ์ที่ดี – DHA อาจมีบทบาทช่วยสนับสนุนสมดุลของสารสื่อประสาท ซึ่งอาจส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ ลดความหงุดหงิดง่าย และช่วยให้เด็กปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีขึ้น
  • ช่วยสนับสนุนสุขภาพสมองระยะยาว – DHA มีฤทธิ์ช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชันในสมอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพสมองในระยะยาว และอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาพัฒนาการทางสมอง
  • เสริมพัฒนาการโดยรวมของเด็ก – DHA มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบประสาทและการทำงานของร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการโดยรวมของเด็ก เช่น การเรียนรู้ การเคลื่อนไหว และการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม

📌 DHA เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กในช่วงวัยเรียนและวัยเจริญเติบโต การได้รับ DHA อย่างเพียงพอจากอาหารที่เหมาะสมหรือผลิตภัณฑ์เสริม DHA ที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตแข็งแรง มีสมาธิดี และพัฒนาการครบถ้วนในทุกด้าน

เด็กที่ขาด DHA เสี่ยงอะไรบ้าง?

  • พัฒนาการสมองไม่เต็มที่ – DHA เป็นองค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทและช่วยเสริมการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง การขาด DHA อาจส่งผลต่อกระบวนการคิด วิเคราะห์ และการทำงานของสมองโดยรวม
  • ปัญหาด้านการมองเห็น – DHA เป็นส่วนประกอบสำคัญของจอประสาทตา โดยเฉพาะในวัยทารกและเด็กเล็ก การได้รับ DHA ไม่เพียงพออาจทำให้พัฒนาการของดวงตาไม่สมบูรณ์
  • อาจมีผลต่อความจำและการเรียนรู้ – มีหลักฐานบางส่วนที่ชี้ให้เห็นว่า DHA มีบทบาทสำคัญในการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการจดจำและการเรียนรู้ แม้ว่ายังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด แต่เด็กที่ขาด DHA อาจมีแนวโน้มพัฒนาทักษะเหล่านี้ช้าลง
  • พัฒนาการทางภาษาอาจล่าช้า – DHA อาจมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา การขาด DHA อาจส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางภาษาที่ช้ากว่าปกติ
  • อาจมีผลต่อพฤติกรรมและอารมณ์ – งานวิจัยบางชิ้นพบว่าระดับ DHA ที่ต่ำอาจสัมพันธ์กับปัญหาพฤติกรรมบางอย่าง เช่น อารมณ์แปรปรวน หรือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ลดลง
  • อาจส่งผลต่อสมาธิและความตั้งใจ – DHA มีบทบาทในการพัฒนาสมองส่วนหน้าที่เกี่ยวข้องกับการโฟกัสและการจดจ่อ การขาด DHA อาจส่งผลให้เด็กมีสมาธิสั้นหรือหลุดโฟกัสได้ง่ายขึ้น
  • อาจมีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน – DHA มีบทบาทช่วยลดภาวะอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจมีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการขาด DHA โดยตรงทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

📌 DHA เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กตั้งแต่ในครรภ์จนถึงวัยเจริญเติบโต การให้เด็กได้รับ DHA อย่างเพียงพอจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริม DHA ที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้พวกเขามีพัฒนาการที่สมบูรณ์ แข็งแรง และลดความเสี่ยงของปัญหาทางพัฒนาการในระยะยาว 😊

DHA เป็นสารอาหารที่ต้องได้รับต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้ลูกเติบโตสมวัย มีพัฒนาการสมองดี และมีสุขภาพแข็งแรง แม่ควรเลือกแหล่ง DHA ที่ปลอดภัยเพื่อให้ลูกได้รับ DHA อย่างเพียงพอจากน้ำนมแม่หรืออาหารเสริมที่เหมาะสม

แค่มีน้ำนมพอให้ลูกกิน…ยังไม่พอ! เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการบำรุงน้ำนมแม่

การมีน้ำนมแม่ให้ลูกกินอย่างเพียงพอเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ คุณภาพของน้ำนม น้ำนมแม่ไม่ใช่แค่ของเหลวที่ช่วยให้อิ่มท้อง แต่เป็นแหล่งของสารอาหารที่มีผลโดยตรงต่อพัฒนาการของลูกน้อย

น้ำนมแม่ต้องมีคุณค่าทางโภชนาการที่เพียงพอ เพราะ…

  • ส่งเสริมพัฒนาการสมอง – DHA และกรดไขมันจำเป็นในน้ำนมแม่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สมองของลูกพัฒนาได้เต็มที่
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน – โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุในน้ำนมแม่ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อ และทำให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง
  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหารของลูกทำงานดีขึ้น – โพรไบโอติกและสารอาหารในน้ำนมแม่ช่วยป้องกันอาการโคลิกและส่งเสริมสุขภาพลำไส้

วิธีเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการบำรุงน้ำนมแม่

  • เพิ่ม DHA ในน้ำนม – เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย DHA เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า สาหร่ายทะเล ไข่ที่เสริม DHA   หรือเลือกเสริม DHA จากแหล่งที่ปลอดภัย
  • รับประทานอาหารที่มีโปรตีนและแร่ธาตุสูง – เช่น ไข่ นม ถั่ว และผักใบเขียว ซึ่งช่วยบำรุงให้น้ำนมมีสารอาหารครบถ้วน เน้นการรับประทานอาหารที่หลากหลาย รวมถึงผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินบี 12 และโฟเลต
  • ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ – การที่ร่างกายของแม่ได้รับน้ำและมีสุขภาพที่ดี จะช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพ ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน และจัดการความเครียด เนื่องจากความเครียดอาจส่งผลต่อการผลิตน้ำนม

ทำไมสารอาหารในน้ำนมแม่จึงสำคัญต่อการเติบโตของลูก?

  • ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองเต็มที่ – กรดไขมัน DHA และ ARA ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นพื้นฐานของสมองที่แข็งแรงและช่วยพัฒนาเซลล์ประสาทให้เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ – น้ำนมแม่มีสารต่อต้านเชื้อโรคตามธรรมชาติโดยไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดในเด็ก 
  • ช่วยพัฒนากระดูกและกล้ามเนื้อ – แร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดี มีบทบาทในการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อ

เพิ่มพลังน้ำนมแม่ด้วยโภชนาการที่สมดุล

  • เลือกแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง – รับประทานปลาทะเลน้ำลึก 2-3 มื้อต่อสัปดาห์  ไข่ นม และถั่ว ช่วยเพิ่มกรดอะมิโนที่จำเป็นในการสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อ
  • เสริมวิตามินและแร่ธาตุจากผักผลไม้ – บรอกโคลี ผักโขม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก ควรรับประทานผักและผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียวและผลไม้สีสดใส
  • บริโภคไขมันดี – อะโวคาโด น้ำมันมะกอก และถั่วเปลือกแข็งช่วยให้ร่างกายแม่ผลิตน้ำนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น

💡 ดังนั้น ไม่ใช่แค่มีน้ำนมเพียงพอให้ลูกกิน แต่แม่ต้องแน่ใจว่าน้ำนมนั้นมีสารอาหารที่ลูกต้องการเพื่อการเติบโตที่สมวัย และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่แข็งแรงให้ลูกตั้งแต่วันแรกของชีวิต


2. DHA กับอารมณ์และพฤติกรรมของเด็ก

DHA เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทต่อการพัฒนาสมอง ช่วยบำรุงเสริมน้ำนมให้แม่และส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมของเด็ก DHA ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมอารมณ์ และเสริมสร้างพฤติกรรมทางสังคม

✅ DHA กับพัฒนาการทางอารมณ์และพฤติกรรมของเด็ก

🔹 ช่วยควบคุมอารมณ์และความเครียด
DHA มีบทบาทสำคัญในการทำงานของสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และ โดพามีน (Dopamine) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และความเครียด มีหลักฐานว่าการได้รับ DHA อย่างเพียงพออาจช่วยให้เด็กอารมณ์มั่นคงขึ้น ไม่หงุดหงิดง่าย ลดแนวโน้มของอารมณ์แปรปรวน และช่วยให้รับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น นอกจากนี้ DHA ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาทางอารมณ์ เช่น ภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลในวัยเด็ก

🔹 เสริมสร้างพฤติกรรมทางสังคมและการปรับตัว
DHA มีความสัมพันธ์กับการพัฒนาทักษะทางสังคมและการควบคุมพฤติกรรมของเด็ก เด็กที่ได้รับ DHA อย่างเพียงพออาจมีความสามารถในการ สื่อสาร ปรับตัว และแสดงออกทางอารมณ์ ได้ดีกว่า งานวิจัยบางชิ้นพบว่า DHA อาจช่วยลดแนวโน้มพฤติกรรมก้าวร้าวและช่วยให้เด็กสามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่าการขาด DHA อาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อาการหุนหันพลันแล่นหรือพฤติกรรมต่อต้านสังคม

🔹 เสริมสร้างการเรียนรู้และความจำ
DHA เป็นองค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์สมองและช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของเซลล์ประสาท ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเรียนรู้และจดจำ มีการศึกษาพบว่าการได้รับ DHA อย่างเพียงพออาจช่วย เพิ่มศักยภาพในการจดจำข้อมูลใหม่ ๆ และช่วยให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น เด็กที่ได้รับ DHA ตั้งแต่วัยทารกผ่านน้ำนมแม่หรืออาหารเสริม อาจมีพัฒนาการทางสมองและความสามารถในการรับรู้ที่ดีกว่าเด็กที่ได้รับ DHA ไม่เพียงพอ

🔹 เพิ่มสมาธิและลดปัญหาสมาธิสั้น (ADHD)
DHA มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) ซึ่งเป็นบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสมาธิ ความสามารถในการจดจ่อ และการตัดสินใจ งานวิจัยบางชิ้นพบว่า DHA อาจช่วยปรับปรุง ความสามารถในการโฟกัสและลดอาการวอกแวก ในเด็กที่มีปัญหาสมาธิสั้น (ADHD) นอกจากนี้ DHA ยังอาจช่วยลดพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นและช่วยให้เด็กสามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลของ DHA ต่อ ADHD ยังต้องการการศึกษามากขึ้นเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ที่แน่ชัด

🔹 DHA กับสุขภาพจิตในระยะยาว
มีการศึกษาชี้ว่าการบริโภค DHA อย่างต่อเนื่องอาจช่วยลดความเสี่ยงของ ภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์ในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ DHA มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของสมองและสารสื่อประสาท ซึ่งอาจช่วยให้เด็กที่ได้รับ DHA อย่างเพียงพอมีแนวโน้มพัฒนาสุขภาพจิตที่แข็งแรงและรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ได้ดีขึ้น

📌 DHA เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อพัฒนาการทางสมอง อารมณ์ และพฤติกรรมของเด็ก การได้รับ DHA อย่างเพียงพอจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริม DHA ที่ได้มาตรฐาน อาจช่วยให้เด็กมีความสมดุลทางอารมณ์ ปรับตัวได้ดีขึ้น มีสมาธิในการเรียน และพัฒนาทักษะทางสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ 😊


3. แม่ควรกินอะไรเพื่อเพิ่ม DHA ในน้ำนม?

DHA เป็นสารอาหารที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แม่ต้องได้รับจากอาหารหรืออาหารเสริมเท่านั้น เพื่อบำรุงเสริมบำรุงน้ำนมแม่ เพื่อให้ DHA ในน้ำนมมีปริมาณที่เหมาะสมต่อการพัฒนาของลูก

🔹 ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาทะเลน้ำลึกอื่น ๆ

  • ปลาเหล่านี้เป็นแหล่ง DHA ตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มระดับ DHA ในน้ำนมแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปลาแซลมอน มี DHA สูง แต่ควรเลือกแบบสดใหม่หรือแช่แข็งที่ผ่านกระบวนการปลอดสารปนเปื้อน
  • ปลาทูน่า มี DHA สูงเช่นกัน แต่ควรเลือกทูน่ากระป๋องชนิด light tuna หรือปลาทูน่าที่มีระดับโลหะหนักต่ำ และไม่ควรบริโภคมากเกินไปในแต่ละสัปดาห์

🔹 ไข่แดง

  • ไข่แดงเป็นแหล่งของ DHA ในปริมาณปานกลาง โดยเฉพาะหากเป็นไข่จากแม่ไก่ที่ได้รับอาหารเสริมโอเมก้า 3
  • นอกจากนี้ยังให้ โคลีน (Choline) ซึ่งช่วยสนับสนุนพัฒนาการของสมองและระบบประสาทของทารก

🔹 เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) และวอลนัท

  • เป็นแหล่งของ ALA (Alpha-Linolenic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็น DHA ได้
  • แม้จะไม่ได้ให้ DHA โดยตรง แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจและระบบไหลเวียนเลือดของคุณแม่

🔹 สาหร่ายทะเลบางชนิด

  • สาหร่ายทะเล เช่น Schizochytrium และ Crypthecodinium เป็นแหล่งของ DHA จากพืชที่มีประสิทธิภาพสูง
  • น้ำมันสาหร่าย (Algal Oil) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคุณแม่ที่ไม่รับประทานปลา และสามารถเพิ่ม DHA ในน้ำนมแม่ได้

การเลือกเสริม DHA อย่างปลอดภัย

  • ต้องเลือกจากแหล่งที่มีผลวิจัยรองรับ – DHA ที่ได้รับควรผ่านมาตรฐานรับรองทางการแพทย์
  • หลีกเลี่ยง DHA จากแหล่งที่มีสารโลหะหนักตกค้าง – ปลาทะเลบางชนิดอาจมีสารปรอทสะสมสูง การเลือกอาหารเสริมที่มีการตรวจสอบคุณภาพจะช่วยลดความเสี่ยงนี้
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุปริมาณ DHA อย่างชัดเจน – เพื่อให้แน่ใจว่าลูกได้รับ DHA ในปริมาณที่เพียงพอ

💡 แม่ที่ต้องการบำรุงน้ำนมให้มี DHA สูง ควรวางแผนการบริโภคอาหารและเลือกเสริม DHA จากแหล่งที่ปลอดภัย เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่ดีที่สุด!


4. วิธีบำรุงน้ำนมให้เพียงพอ มีคุณภาพดี DHA สูง 

การบำรุงน้ำนมให้มี DHA สูงและเพียงพอสำหรับลูกน้อย จำเป็นต้องดูแลสุขภาพและโภชนาการของแม่อย่างเหมาะสม โดยเน้นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมและเพิ่มคุณภาพของ DHA ในน้ำนม

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นมแม่ให้เพียงพอ มีคุณภาพดี DHA สูง

  • กินอาหารที่มี DHA สูง – ควรเลือกรับประทานปลาทะเลน้ำลึกที่ผ่านการตรวจสอบ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และแหล่ง DHA จากพืช เช่น สาหร่ายทะเลบางชนิด
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ – ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปั๊มนมและให้ลูกดูดกระตุ้น – การให้ลูกดูดนมบ่อย ๆ หรือการปั๊มนมสม่ำเสมอช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ – การพักผ่อนช่วยให้ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างน้ำนมทำงานได้ดีขึ้น
  • จัดการความเครียด – ความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำนม DHA ควรหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายเบา ๆ
  • เลือกอาหารเสริม DHA ที่ปลอดภัย – ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองทางวิทยาศาสตร์ ปราศจากสารโลหะหนักตกค้าง

⚠️ ข้อควรระวังในการบำรุงน้ำนมแม่ให้มี DHA สูง

  • หลีกเลี่ยงปลาที่มีสารปรอทสูง – ปลาทะเลน้ำลึกบางชนิด เช่น ปลาฉลาม ปลากระโทงแทง ปลาคิงแมคเคอเรล และปลาทูน่าท้องโต อาจมีสารปรอทสะสม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่และลูก
  • เลือกผลิตภัณฑ์เสริม DHA อย่างรอบคอบ – ควรเลือก DHA จากแหล่งที่ผ่านการตรวจสอบว่าปราศจากสารปนเปื้อน โลหะหนัก และได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้

💡 แม่ที่ต้องการบำรุงน้ำนมของแม่ให้มี DHA สูง ควรดูแลโภชนาการ การพักผ่อน และสภาวะอารมณ์ของตัวเอง เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่ดีที่สุดตั้งแต่หยดแรกของนมแม่! ควรดูแลโภชนาการ การพักผ่อน และสภาวะอารมณ์ของตัวเอง เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่ดีที่สุดตั้งแต่หยดแรกของนมแม่!


จำเป็นต้องเสริม DHA เพิ่มหรือไม่ และควรเลือกอย่างไร?

แม้ว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย DHA จะช่วยให้แม่ได้รับ DHA อย่างเพียงพอ แต่ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องเสริม DHA เพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นผ่านทางน้ำนมแม่

✅ กรณีที่แม่ควรพิจารณาเสริม DHA

🔹 แม่ที่รับประทานปลาทะเลน้ำลึกไม่เพียงพอ

  • DHA ส่วนใหญ่พบในปลาทะเลน้ำลึก เช่น แซลมอน ซาร์ดีน แมคเคอเรล และทูน่า หากคุณแม่ไม่ได้บริโภคปลาเป็นประจำ อาจทำให้ระดับ DHA ในน้ำนมต่ำ
  • ปริมาณ DHA ที่ แนะนำสำหรับแม่ที่ให้นมบุตร อยู่ที่ 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน ตามคำแนะนำขององค์กรด้านสุขภาพ เช่น WHO และ FAO
  • ในกรณีที่ได้รับ DHA จากอาหารไม่เพียงพอ อาหารเสริม DHA เช่น น้ำมันปลา น้ำมันสาหร่าย หรืออาหารเสริม DHA อาจเป็นทางเลือกที่ดี

🔹 แม่ที่มีข้อจำกัดด้านอาหาร

  • แม่ที่ รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกน อาจได้รับ DHA น้อยกว่าปกติ เนื่องจาก DHA ส่วนใหญ่มาจากปลา
  • แม่ที่มีอาการ แพ้อาหารทะเล หรือมีข้อจำกัดด้านอาหารอื่น ๆ อาจต้องพิจารณา อาหารเสริม DHA จากน้ำมันสาหร่าย หรืออาหารเสริม DHA ซึ่งเป็นแหล่ง DHA ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

🔹 แม่ที่ต้องการเพิ่มคุณภาพ DHA ในน้ำนม

  • การเสริม DHA อาจช่วยเพิ่มระดับ DHA ในน้ำนมแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อพัฒนาการสมองและสายตาของทารก
  • มีงานวิจัยพบว่า หากคุณแม่ได้รับ DHA เพิ่มขึ้นผ่านอาหารหรืออาหารเสริม ระดับ DHA ในน้ำนมแม่จะเพิ่มขึ้นภายในไม่กี่วัน
  • ทารกที่ได้รับ DHA จากน้ำนมแม่อาจมี พัฒนาการด้านสมองและสายตาดีกว่า ทารกที่ได้รับ DHA ในปริมาณต่ำ

🔹 แม่ที่มีภาวะขาดสารอาหาร หรือมีการตั้งครรภ์ที่ใช้ DHA มาก

  • ในระหว่างตั้งครรภ์ DHA ถูกส่งไปยังทารกผ่านรก ทำให้ระดับ DHA ในร่างกายของแม่ลดลงหลังคลอด หากแม่ไม่ได้รับ DHA อย่างเพียงพอ อาจส่งผลต่อปริมาณ DHA ในน้ำนม
  • แม่ที่มีภาวะโภชนาการไม่สมบูรณ์ หรือเคยมีภาวะ พร่องโอเมก้า 3 อาจต้องเสริม DHA เพื่อให้แน่ใจว่าทารกได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

🔹 แม่ที่มีลูกคลอดก่อนกำหนดหรือเด็กน้ำหนักแรกเกิดต่ำ

  • ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมี ความต้องการ DHA สูง เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการสมองและสายตา
  • DHA ใน น้ำนมแม่ของแม่ที่มีลูกคลอดก่อนกำหนด มีแนวโน้มต่ำกว่าปกติ ดังนั้น การเสริม DHA อาจช่วยเพิ่มปริมาณ DHA ในน้ำนม เพื่อสนับสนุนพัฒนาการของทารกที่คลอดก่อนกำหนด

🔹 แม่ที่ต้องการลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression – PPD)

  • DHA มีบทบาทใน การทำงานของสมองและสารสื่อประสาท ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
  • มีการศึกษาพบว่า แม่ที่มีระดับ DHA ต่ำ อาจมีแนวโน้มเสี่ยงต่อ อารมณ์แปรปรวน ความเครียด และภาวะซึมเศร้าหลังคลอด มากกว่าปกติ
  • DHA จากน้ำมันปลาและน้ำมันสาหร่ายเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและอาจช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นหลังคลอด

📌 DHA เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพของแม่และพัฒนาการของทารก หากคุณแม่ไม่ได้รับ DHA อย่างเพียงพอจากอาหาร อาจพิจารณาเสริม DHA จากแหล่งที่ปลอดภัย เช่น น้ำมันปลา หรือน้ำมันสาหร่าย เพื่อให้แน่ใจว่าลูกได้รับ DHA อย่างเต็มที่ผ่านน้ำนมแม่ 😊

 เลือก DHA ยังไง ให้ลูกได้ประโยชน์สูงสุด?

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพ – ควรเลือก DHA ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น อย. หรือองค์กรด้านโภชนาการ
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารปนเปื้อน – DHA ควรได้รับจากแหล่งที่ปลอดภัย ปราศจากโลหะหนัก เช่น สารปรอทและตะกั่ว
  • ตรวจสอบปริมาณ DHA ที่เหมาะสม – ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุปริมาณ DHA ต่อหน่วยบริโภคอย่างชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับ DHA เพียงพอ

 ตารางข้อแตกต่างของ DHA จากแหล่งธรรมชาติ vs DHA เสริม

Promom ความทุ่มเทของคุณหมอหัวใจแม่


Nutri Plus 41|42 ทางเลือกที่ปลอดภัยในการเพิ่ม DHA ในน้ำนมแม่

Promom ความทุ่มเทของคุณหมอหัวใจแม่

Nutri Plus 41|42 เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้แม่มี น้ำนมที่มีคุณภาพสูง พร้อมปริมาณ DHA ที่เพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า ภายใน 2 วัน

ส่วนผสมสำคัญ

  • DHA 196 mg → ช่วยเพิ่ม DHA ในน้ำนมสูงสุด 2.5 เท่า
  • DHA จากปลาทะเลน้ำลึก → ผ่านการตรวจสอบว่าปราศจากสารโลหะหนักตกค้าง
  • หัวปลีออร์แกนิก ขิงออร์แกนิก ฟีนูกรีกออร์แกนิก → กระตุ้นการผลิตและการไหลของน้ำนม
  • Calcium Aquamin + ธาตุเหล็ก SunActive → เสริมสร้างกระดูกและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวดีขึ้น
  • วิตามินและแร่ธาตุกว่า 70 ชนิด → ช่วยให้ร่างกายของแม่มีพลังและสมดุล

ผลลัพธ์ที่ได้รับ
✔ ปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้นภายใน 2 วัน
✔ DHA ในน้ำนมเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า
✔ ได้รับการรับรองและผ่านการศึกษาทางคลินิก

Nutri Plus 41|42 เหมาะสำหรับแม่ที่ต้องการให้ลูกได้รับ DHA อย่างเพียงพอเพื่อพัฒนาสมอง สายตา และระบบประสาท ตั้งแต่วันแรกของชีวิต


Q&A: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ DHA ในน้ำนมแม่

Q: DHA สำคัญกับลูกน้อยอย่างไร?

A:  DHA เป็นองค์ประกอบสำคัญของสมอง โดยคิดเป็นประมาณ 60% ของไขมันโครงสร้างในสมอง และมีบทบาทในการพัฒนาสมองและระบบประสาท โดยเฉพาะในช่วงทารกและเด็กเล็ก การได้รับ DHA อย่างเพียงพอในช่วงแรกเกิดมีความสำคัญต่อพัฒนาการของสมองและการทำงานของเซลล์ประสาท ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้และความจำของลูก

Q: แม่ควรกินอาหารอะไรเพื่อเพิ่ม DHA ในน้ำนม?

A: อาหารที่มี DHA สูงที่ช่วยบำรุงน้ำนมของแม่ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่แดง สาหร่ายทะเล และถั่ววอลนัท นอกจากนี้แม่สามารถเลือกผลิตภัณฑ์เสริม DHA ที่ปลอดภัยและผ่านการรับรอง

Q: หากแม่ไม่สามารถรับประทานปลาทะเลได้ ควรทำอย่างไร?

A: แม่สามารถเลือก DHA จากสาหร่ายทะเลหรือผลิตภัณฑ์เสริม DHA ที่ผ่านการตรวจสอบว่าปลอดภัย ปราศจากโลหะหนัก และมีปริมาณที่เหมาะสม

Q: DHA เสริมกับ DHA จากอาหารธรรมชาติต่างกันอย่างไร?

A: DHA จากอาหารธรรมชาติต้องผ่านกระบวนการย่อยก่อนนำไปใช้ ส่วน DHA เสริมที่ดีจะถูกออกแบบให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น และมีปริมาณที่แน่นอน

Q: Nutri Plus 41|42 ช่วยเพิ่ม DHA ในน้ำนมได้อย่างไร?

A: Nutri Plus 41|42 มี DHA จากปลาทะเลน้ำลึกที่ช่วยบำรุงน้ำนม และผ่านการตรวจสอบว่าปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อน และช่วยเพิ่ม DHA ในน้ำนมได้สูงถึง 2.5 เท่า  อีกทั้งยังมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสุขภาพของแม่และลูกให้แข็งแรง

💡 “อย่ารอให้ลูกขาด DHA! เพิ่ม DHA ในน้ำนมแม่ได้สูงสุด 2.5 เท่าใน และปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้น ใน 2 วัน – Nutri Plus 41|42 พร้อมดูแลคุณและลูกน้อย”

เรื่องราวดีๆจาก Promom

เจ้าของบทความ

พชรอร ยอดพยุง (Content Team)

หรือติดตามได้ที่เพจ Promom Thailand

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก Promom

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Nutri Plus 41&42 เพิ่มน้ำนมแม่

สำหรับคุณแม่หลังคลอด จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Multi-IMMU 24+ (เด็กโต) ลดภูมิแพ้

สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Multi-IMMU 24 (เด็กเล็ก) ลดภูมิแพ้

สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

DHA Probio 9+ (เด็กโต) พัฒนาสมอง

สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

DHA Probio 9 (เด็กเล็ก) พัฒนาสมอง

สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

Promom ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

Cal-D-KII 6+ เพิ่มความสูง

สำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป จัดส่งฟรี

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก

แหล่งข้อมูล

... สั่งซื้อได้ตลอด 24 ชม.
ติดต่อโปรมัม
...
...
...

โทรศัพท์: 02 114 8788

อีเมลล์: [email protected]

...
...
Professional Mom (Thailand) Co., Ltd. เลขที่ 117 ซอยศูนย์การค้าสาย 4 ถนนสุขุมวิท ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21000.