รู้จักทักษะ EF ทักษะสำคัญต่อพัฒนาการของลูกรักในยุคปัจจุบัน
เรื่องราวดีๆจาก Promom สำหรับคุณแม่และลูกน้อย
ปัจจุบันการเลี้ยงดูลูกสำหรับคุณพ่อคุณแม่นั้นอาจจะไม่สามารถนำความรู้เดิม ๆ มาใช้ได้ทั้งหมด เพราะเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน อีกทั้งยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ส่งผลให้ผู้ปกครองต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงลูกให้เหมาะสมกับเด็ก ๆ มากที่สุด
และหนึ่งในความกังวลของเหล่าคุณพ่อคุณแม่ คงหนีไม่พ้นการใช้ชีวิตและความสำเร็จของลูก ๆ ในอนาคต และแน่นอนอยู่แล้วว่าคุณพ่อคุณแม่นั้นอยากให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้ดีที่สุด การปูทักษะพื้นฐานตั้งแต่วัยเด็ก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกครอบครัวสามารถผลักดันลูกไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
วันนี้เราจึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับ ทักษะ EF ตัวช่วยที่จะทำให้เด็ก ๆ จัดการระเบียบกับอารมณ์ความคิด รวมไปถึงทำความรู้จักกับอารมณ์ของตัวเองให้ดีมากยิ่งขึ้นกัน
ทักษะ EF คืออะไร
EF (Executive Functions) คือ ทักษะการบริหารจัดการตัวเอง เป็นกระบวนการของระบบความคิดสมองส่วนหน้า ที่มีหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์ การกระทำ และความรู้สึก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ส่งผลทำให้เด็ก ๆ ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต และแม้ว่าทักษะ EF จะไม่ได้มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถพัฒนา ทักษะ EF สำหรับลุกรัก ได้จากการฝึกฝนต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งช่วงที่สมองส่วนหน้าของเด็ก ๆ พัฒนาได้ดี เหมาะแก่การพัฒนาทักษะ EF คือช่วงอายุ 3 – 5 ปีนั่นเอง
ทักษะ EF มีประโยชน์ต่อลูกรักอย่างไร
ทักษะ EF ถือเป็นทักษะสำคัญสำหรับลูกรัก เด็ก ๆ จะใช้ทักษะนี้ในการจดจำ และทำตามคำสั่งสิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย หากกล่าวง่าย ๆ ก็คือทักษะนี้มีความสามารถในการช่วยควบคุมอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างของลูกเพื่อให้พวกเขาได้ผลลัพธ์ที่ดีและประสบความสำเร็จตามคาดหวังในที่สุด ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญกับการฝึกและส่งเสริมสิ่งเหล่านี้เพื่อพัฒนาทักษะ EF ให้เด็ก ๆ อยู่สม่ำเสมอ ก็จะทำให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ จดจำ และมีความสามารถในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น
ทักษะ EF ช่วยพัฒนาสมอง และทำให้ลูกฉลาดขึ้นได้
ทักษะ EF สามารถแบ่งออกมาได้ทั้งหมด 9 ด้านด้วยกัน โดยสามารถแยกเป็น ทักษะขั้นพื้นฐาน 3 ด้าน และทักษะขั้นสูง 6 ด้าน ประกอบไปด้วย
ทักษะ EF พื้นฐาน
- ความสามารถในการจดจำเพื่อใช้งาน
- กาควบคุม ยั้งคิด และไตร่ตรอง
- การยืดหยุ่นทางความคิด
ทักษะ EF ขั้นสูง
- การใส่ใจและจดจ่อ
- การควบคุมอารมณ์
- การไตร่ตรองและประเมินตนเอง
- การคิดริเริ่มและลงมือทำ
- การวางแผน จัดระบบระเบียบ และดำเนินการ
- การวางและมุ่งเป้าหมาย
ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่ต้องหมั่นฝึกฝนและใช้งานอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งช่วงวัย 3 – 5 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการพัฒนาทักษะนี้ไปพร้อม ๆ กับพัฒนาสมองของเด็ก ๆ และยังสามารถพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ จนเด็ก ๆ เติบโต
สิ่งที่จะช่วยทำให้ทักษะ EF มีประสิทธิภาพ คือ การกระตุ้นการเรียนรู้ด้วยกิจกรรม ให้สมองได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่าง ๆ รอบตัว การเล่นหรือทดลองสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน เพื่อพูดคุย หาคำตอบ และจัดการกับความคิดของตัวเอง
นอกจากทักษะ EF จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและสมองของลูก การฝึกทักษะ EF จะช่วยทำให้เด็ก ๆ ลดโอกาสในการเป็นโรคสมาธิสั้นได้อีกด้วย เพราะทักษะนี้จะช่วยพัฒนาสมองส่วนหน้าที่ควบคุมสมาธิและการตัดสินใจของเด็ก ๆ ทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะการการจัดการตัวเองให้ดีขึ้น
สารอาหารและโภชนาการที่เหมาะสำหรับการพัฒนาสมอง
สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้การพัฒนาและการฝึกฝนทักษะ EF ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น คือ การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่อยู่เสมอ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยหมั่นดูแลและใส่ใจโภชนาการของลูกรัก การเลือกเสริมวิตามินหรือเหล่าอาหารที่มี DHA จากปลาทะเล หรือ SunTheanine ® ™ กรดอะมิโนจากธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้รับการบำรุงและเสริมสร้างพัฒนาการสมองให้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งสารอาหารที่ดีเหล่านี้จะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโต และการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวของลูก เหมาะต่อการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะ EF ไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้อาหาร อย่าง ผลไม้ตระกูลเบอรี และแร่ธาตุ อย่าง สังกะสี เหล็ก และแมกนีเซียม หรืออาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเพิ่มการจดจ่อในขณะเรียนรู้ ลดอาการสมาธิสั้น และช่วยเพิ่มทักษะความจำให้กับลูกรักได้เป็นอย่างดี
สิ่งสำคัญไม่แพ้โภชนาการและอาหารคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ให้เด็ก ๆ มีการนอนที่มีคุณภาพดี จะช่วยทำให้ร่างกายได้ทำงานและเจริญเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น นอกจากการดูแลให้ลูกรักได้รับอาหารครบ 5 หมู่ นอนหลับอย่างมีคุณภาพ และออกกำลังเป็นประจำ คุณแม่ยังสามารถเสริมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารอาหารสมองและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการพักผ่อนสำหรับลูกรัก โดยเจาะจงเลือกผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นและพัฒนามาเพื่อเด็กเอเชียโดยเฉพาะ มีขั้นตอนการผลิตที่ปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ประกอบด้วยสารอาหารสำคัญสำหรับสมอง เช่น DHA ธาตุเหล็ก ที่มีเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังควรมีส่วนประกอบของโพรไบโอติกสายพันธุ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองส่วนที่ 2 หรือลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีสารอาหารที่ช่วยให้เด็ก ๆ พักผ่อนได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
บทความที่ควรอ่านต่อ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก Promom
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก