ลูกไม่มีสมาธิ อยากให้ลูกมีความจำดี พัฒนาการสมองไว พ่อแม่ควรทำอย่างไร
เรื่องราวดีๆจาก Promom สำหรับคุณแม่และลูกน้อย
ปัญหาลูกความจำไม่ดี ลูกไม่มีสมาธิ ลูกความจำช้า พัฒนาการช้า จำสิ่งที่เราสอนไม่ค่อยได้ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่คุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเป็นอย่างมาก ผู้ปกครองแต่ละบ้านล้วนอยากให้ลูกมีความจำดี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ลูกรักสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ทั้งในและนอกห้องเรียนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่การเสริมสร้างพัฒนาการสมอง เพื่อให้ลูกมีสมองส่วนการ จดจำที่ดี คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้อะไรบ้าง ต้องสอนลูกอย่างไร มีคำตอบให้ในบทความนี้เลยคะ
สมองส่วนความจำ
สมองของเราแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ก้านสมอง (Brain Stem) สมองน้อย (Cerebelium) และสมองใหญ่ (Cerebrum) ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป แต่สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำนั้น คือ สมองส่วนขมับ (Temporal Lobe) ซึ่งอยู่ภายใต้การทำงานของสมองใหญ่ โดยสมองส่วนนี้จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับรู้ แปลผล และตัดสินข้อมูลเสียงที่เข้ามาทางหูทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ ตัวเด็ก สมองส่วนนี้มี ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ที่อยู่บริเวณกลีบสมองด้านข้างทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยความจำหลัก หรือ Main Memory Circuit ของสมอง
ความจำประเภทต่าง ๆ สามารถแบ่งได้ดังนี้
- ความจำการรับความรู้สึก (Sensory memory) ความสามารถจำข้อมูลที่ส่งเข้ามายังสมองในช่วงสั้น ๆ เช่น การมองเห็น การได้ยิน ซึ่งใช้เวลาไม่นาน เมื่อรับรู้แล้วจะส่งผ่านไปยังสมองส่วนที่เก็บความทรงจำระยะสั้น
- ความจำระยะสั้น (Short-term memory ) เป็นความจำช่วงสั้น ๆ ระยะเวลาตั้งแต่ 10 วินาที ไปจนถึง 2 – 3 นาที เช่น การจำบ้านเลขที่ เราสามารถจะจำเบอร์ในระยะสั้น ๆ แต่จะลืมทันที หากไม่มีการทบทวนซ้ำ และมีข้อมูลชุดใหม่เข้ามาแทนที่
- ความจำระยะยาว (Long term memory) เป็นชุดความจำที่ทำหน้าที่เป็นเหมือน Hard disk ขนาดใหญ่ ที่จดจำทุกอย่างได้ไม่จำกัดระยะเวลา จำได้นาน ๆ เป็นวัน เป็นปี เช่น จำชื่อตัวเอง สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย เป็นต้น
อยากให้ลูกมีความจำดี พ่อแม่ควรฝึกลูกอย่างไร
- สอนให้ลูกรู้จักผ่อนคลายความเครียด อย่ากดดันลูกมากเกินไป เพราะความเครียดจะส่งข้อมูลต่าง ๆ ไปให้สมองส่วนปฏิกิริยาตอบสนอง และขัดขวางไม่ให้ข้อมูลไปถึงสมองส่วนการคิดไตร่ตรองกับความจำระยะยาว
- รู้จักกระตุ้นความสนใจให้ลูก เพื่อเพิ่มการจดจำระยะยาว เช่น ติดภาพโปสเตอร์เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกกำลังจะเรียน แล้วพูดชักจูงกระตุ้นให้ลูกทายว่าเรื่องนี้คืออะไร แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นต้น
- ใช้สีสันช่วยกระตุ้นสมองและความจำ เช่น ให้ลูกใช้ดินสอสีขีดเส้นใต้ หรือระบายเพื่อเน้นความสำคัญ อาจจะสอนให้เรียงลำดับความสำคัญตามสีไฟจราจรก็ได้
- สร้างความแปลกใหม่ให้ลูกเสมอl เพราะสมองจะตื่นตัวกับสิ่งใหม่ ๆ และประมวลข้อมูลมากกว่าปกติ ช่วยให้สมองด้านความจำสามารถทำงานดีขึ้น
- สร้างความหมายในแบบฉบับตัวเอง เนื่องจากเรื่องที่ลูกจะจำได้แม่นมัก เป็นเรื่องที่เขาสนใจหรือคิดว่าสำคัญกับตัวเขา
- ฝึกเชื่อมโยงความทรงจำ เช่น ทบทวนสิ่งที่ลูกรู้อยู่แล้ว หรือบทเรียนจากวิชาอื่น แล้วเชื่อมข้อมูลความรู้ใหม่เข้าไป จะทำให้ความจำระยะสั้นกลายเป็นความจำระยะยาวได้
- สอนให้ลูกรู้จักจัดระบบระเบียบข้อมูล ทำตาราง แผนภูมิ เปรียบเทียบความเหมือนและความต่าง ของสิ่งที่เรียนรู้หรือเนื้อหาในห้องเรียน เพื่อสร้างระบบความจำระยะยาว
- ไม่ใช่แค่คิดแต่ต้องลงมือทำบ่อย ๆ เช่น ให้ลูกเขียนสรุปสิ่งที่เรียนด้วยคำพูดตัวเอง ในรูปแบบภาพวาด การ์ตูน นิทาน หรือเรื่องสั้นก็ได้ ตามความถนัดของลูก
- รู้จักพักสมอง เพื่อไม่ให้สมองของลูกล้าจนเกินไป โดยแทรกด้วยกิจกรรมสนุก ๆ เช่น ยืดเส้นยืดสาย ร้องเพลง เล่นเกมทำท่าทางตามคำศัพท์ แค่ไม่กี่นาที ก็ช่วยเพื่อให้สมองสดชื่นขึ้นและเตรียมพร้อมจดจำได้ดีขึ้น
อยากให้ลูกความจำดี ต้องกินอะไร
แปะก๊วย นมถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ แซลมอน นม ไข่ ธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่ว ข้าวซ้อมมือ ซีเรียลต่าง ๆ และโยเกิร์ต ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นอาหารที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง และส่วนของความจำ ซึ่งสามารถหาทานได้ง่าย และประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมอง เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต โอเมก้า 3 ดีเอชเอ โคลีน วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการนำไปพัฒนาสมองและระบบประสาท
ลูกไม่มีสมาธิ แต่อยากให้ลูกความจำดี อาหารเสริมบำรุงสมอง คืออีกหนึ่งตัวช่วยที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากโภชนาการที่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างความจำในข้างต้นแล้ว การที่คุณพ่อคุณแม่ในปัจจุบัน มองหาทางเลือกเพื่อเสริมสารอาหารสำคัญสำหรับสมองให้ลูก ลูกไม่มีสมาธิเนื่องจากเด็ก ๆ มักมีพฤติกรรมเลือกรับประทานอาหาร ทานยาก และปฏิเสธการทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เป็นประจำ ทำให้อาจได้รับสารอาหารสมองไม่เพียงพอต่อร่างกาย คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่จึงเลือกให้ลูกทานอาหารเสริมตามวัยในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งแนวทางในการเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองและความจำให้ลูกรัก จำเป็นต้องมองหาสารอาหารสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
- DHA ชนิดปราศจากโลหะหนัก ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองและระบบประสาทของลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าดีเอชเอทั่วไป
- Fe หรือ ธาตุเหล็ก ที่มีเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารและการนำไปใช้ ซึ่งมีความสามารถช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของ 1st brain และ Hippocampus ที่เกี่ยวกับระบบประสาท สมอง ความจำ และสติปัญญา
- โพรไบโอติกส์ สายพันธุ์เฉพาะ 5 ชนิด ได้แก่ Lactobacillus casei, Lactobacillus rhamnosus, Bifidobacterium breve, Bacillus Coagulans, Lactobacillus gasseri ที่มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างการทำงานของ 2nd brain หรือสมองส่วนที่สอง ได้แก่ ลำไส้ ช่วยผลิตสารสื่อประสาทส่งกลับไปยังสมองส่วนที่หนึ่ง เพื่อพัฒนาสมอง ส่งเสริมความจำและเสริมสร้างการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น
- SunTheanine กรดอะมิโนธรรมชาติ มีส่วนช่วยผ่อนคลาย เพิ่มสมาธิ ช่วยสร้างการจดจำทั้งระยะสั้นและระยะยาว และช่วยให้ลูกนอนหลับอย่างมีคุณภาพตลอดคืน ทำให้ตื่นเช้ามาอย่างสดชื่น พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ
บทความที่ควรอ่านต่อ: ลูกอยู่ไม่นิ่ง สมาธิสั้น ฝึกสมาธิลูกได้อย่างไร วิธีสังเกตลูกเป็นสมาธิสั้น
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก Promom
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเด็ก คิดค้นวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กและพัฒนาจากองค์ความรู้ ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและนักโภชนาการเด็ก