สอนลูกอ่านหนังสือ เริ่มต้นเมื่อไหร่ ควรสอนอย่างไรดี

สอนลูกอ่านหนังสือ เริ่มต้นเมื่อไหร่ ควรสอนอย่างไรดี

สอนลูกอ่านหนังสือ มีความสำคัญอย่างไร ทำไมพ่อแม่ควรร่วมด้วยช่วยกันสอนลูกให้มีพัฒนาการอ่าน และมีวิธีสอนลูกอ่านหนังสือให้สนุกได้อย่างไรบ้าง


ลูกอ่านหนังสือไม่ออก เกิดจากอะไร 

  • เด็กบางคนเป็นโรคดิสเล็กเซีย (Dyslexia) คือ โรคบกพร่องทางสติปัญญา 
  • เด็กย้ายถิ่นฐานบ่อย ส่วนใหญ่ต้องย้ายติดตามพ่อแม่ ทำให้ต้องเปลี่ยนโรงเรียนบ่อย ๆ
  • ผู้ปกครองไม่ส่งเสริมการอ่านของลูกตั้งแต่ช่วงปฐมวัย
  • ผู้ปกครองมีภารกิจรัดตัวจนไม่มีเวลาสอนการบ้าน ไม่ฝึกการอ่านการเขียนให้ลูก มอบภาระให้แค่ครู
  • การเรียนการสอนในห้องเรียนเกิดความล้มเหลว เช่น ครูไม่มีความชำนาญและขาดประสบการณ์ในการสอน
  • ไม่ได้รับการปลูกฝังที่ดีให้มีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก
  • ปล่อยให้ลูกติดมือถือหรือทีวีตั้งแต่เด็ก ทำให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้า


ลูกติดมือถือมากเกินไป อาจทำให้อ่านหนังสือไม่ออก

ปัจจุบันผู้ปกครองหลายคนมักปล่อยให้ลูกอยู่กับมือถือหรือทีวีมากเกินไป ซึ่งผลที่ตามมาคือ ทำให้เด็ก ๆ ขาดสมาธิ ไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือ และทำให้เด็ก ๆ มีความเสี่ยงเป็นออทิสติกเทียม เด็กจะไม่ค่อยพูด ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว ขาดทักษะการสื่อสาร การอ่าน และมีพัฒนาการช้าจนไม่สามารถเข้าเรียนช่วงอายุปกติได้ หรือบางรายก็อาจต้องไปเรียนกับกลุ่มเด็กพิเศษ


เพราะฉะนั้น พ่อแม่ไม่ควรให้ลูกเล่นมือถือหรือดูทีวีก่อนวัยเข้าเรียน แต่ควรชวนเด็ก ๆ ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ทุกวัน หมั่นพูดคุย และสอนการพูดการอ่าน ให้ลูก ๆ ค่อย ๆ คอยซึมซับการเรียนรู้ผ่านการเล่นไปเรื่อย ๆ ก็จะช่วยให้ลูกรักการอ่าน มีพัฒนาการด้านทักษะการสื่อสารได้ดีตามลำดับ


สอนลูกอ่านหนังสือ เริ่มต้นเมื่อไหร่

ความจริงแล้วการสอนให้ลูกมีนิสัยรักการอ่าน เริ่มปลูกฝังได้ตั้งแต่ลูกยังเป็นเด็กเล็ก หรือเริ่มสอนจริงจังได้ตั้งแต่อยู่ในช่วงปฐมวัยหรือวัยก่อนเข้าเรียนอนุบาล  แม้ว่าลูกยังสื่อสารเป็นคำประโยคยาว ๆ ไม่ได้เหมือนเด็กวัยอนุบาล แต่สมองของเค้ามีการเจริญเติบโตอยู่เสมอ การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง เช่น หนังสือนิทาน หรือภาพวาดที่มีตัวหนังสือประกอบ เน้นอ่านและชี้ให้ลูกดูบ่อย ๆ จะมีส่วนช่วยให้ลูกมีทักษะการอ่านที่ดี และง่ายที่จะฝึกฝนในอนาคต


วิธีสอนลูกอ่านหนังสือ ในวัยอนุบาล

  • ในช่วงวัยอนุบาล เด็ก ๆ ได้เริ่มเรียนรู้พยัญชนะบ้างแล้ว ดังนั้น พ่อแม่สามารถฝึกฝนหรือสอนให้ลูกอ่านหนังสือ และชอบอ่านหนังสือ ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ ฝึกให้ลูกอ่านทุกวันเพื่อความต่อเนื่อง โดยเริ่มจากหนังสือนิทาน หรือหนังสือที่เน้นมีภาพประกอบ  
  • เด็กวัยอนุบาล กล้ามเนื้อมือมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะให้ลองจับดินสอสี ดินสอเขียนหนังสือ พ่อแม่สามารถฝึกให้ลูกวาดภาพ โยงเส้น หรือฝึกเขียนตัวหนังสือง่าย ๆ เพราะการฝึกเขียนก็ถือว่าเป็นการช่วยเสริมทักษะในการอ่านไปพร้อมกัน
  • การนำคำมาแต่งเป็นประโยคสื่อสารรูปหรือเหตุการณ์จริง เช่น ใคร+ทำอะไร หรือ ใคร+ทำอะไร+กับใคร เป็นต้น
  • ฝึกลูกเขียนคำตามภาพวาด ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างทักษะการอ่าน แต่ลูกยังได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย


Sun Theanine อาหารสมอง เสริมสมาธิและความจำ ทำให้ลูกอ่านหนังสือเก่งขึ้น

Sun Theanine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจากธรรมชาติ ปัจจุบันนิยมใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับเด็ก เพราะมีคุณประโยชน์ตั้งแต่การช่วยให้เด็กผ่อนคลาย นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน พร้อมตื่นมาอย่างสดใสในทุก ๆ เช้า ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงสมอง ช่วยให้เด็กมีสมาธิ เสริมสร้างความจำทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีเวลาลูกเรียนหนังสือในห้องเรียน หรือแม้แต่การฝึกอ่านหนังสือ ก็ช่วยให้จดจำได้ดี และมีสมาธิทำให้อ่านหนังสือนาน ๆ ได้ เป็นการแก้ปัญหาเด็กในปัจจุบันที่มักจะมีสมาธิจดจ่อต่อการอ่านอะไรนาน ๆ ไม่ค่อยได้


นอกจาก Sun Theanine แล้ว ก็ยังมีสารอาหารสมองอื่น ๆ ที่สามารถรับประทานร่วมกัน หรืออยู่ในผลิตภัณฑ์เดียวกัน ก็จะยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ ดีเอชเอ (DHA), ธาตุเหล็ก Fe (SunActive Fe) และโพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นต้น


บทความที่ควรอ่าน

แหล่งข้อมูล

RECOMMENDED

ผลิตภัณฑ์แนะนำสำหรับคุณแม่และลูกรัก

ติดตามและรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โปรโมชันและความรู้ดี ๆ ก่อนใครได้ที่นี่

ติดตาม Promom